เหยื่อรายที่ 3 เปิดใจเหยื่ออีกรายของสิบตำรวจเอก สภ.แสนสุข หลังเคยถูกหลอกเอาเงินวิ่งคดี

วันที่ 7 ธ.ค. 2567 เวลา 19:03 น.

เหยื่อรายที่ 3 เปิดใจเหยื่ออีกรายของสิบตำรวจเอก สภ.แสนสุข หลังเคยถูกหลอกเอาเงินวิ่งคดี เผย แทบหมดศรัทธาในตำรวจ หวังให้ช่วยกลับถูกหลอกเอาเงินเพิ่ม                                จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 15.10 วันที่ 6 ธ.ค.ที่ สภ.แสนสุข ตำรวจ ภ.จว.ชลบุรี ได้ควบคุมตัว ส.ต.อ.วิชาญ รอง ผบ.หมู่ (ป) สภ.แสนสุข จว.ชลบุรี ในข้อหา ทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่ 3 ตาม ม. 341 และผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตาม ม.157 ประมวลกฎหมายอาญา หลังก่อเหตุตบทรัพย์ผู้เสียหายเป็นหญิงวัย 70 ปี จากคดีฉ้อโกงซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นเงินกว่า 250,000 บาท ต่อมาวันนี้ 7 ธันวาคม 2567 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางสาวภัทรวดี อายุ  30ปี ผู้เสียหายอีกคน ที่เป็นเหยื่อของสิบตำรวจเอกวิชาญ ที่ไปแจ้งความ แล้วถูกหลอกเอาเงิน วิ่งเต้นคดี นอกจากนี้ยังมีหลักฐานการแช็ตคุย สลิปการโอนเงิน บัตรประชาชนของตำรวจนายนี้ที่ส่งมายืนยันพร้อมเลขบัญชี ของธนาคารแห่งหนึ่ง อย่างชัดเจน จากการสอบถามนางสาวภัทรวดี ผู้เสียหาย เผยว่า ตนโดนมิจฉาชีพหลอก จึงไปแจ้งความที่ สภ.แสนสุข เมื่อเดือนตุลาคม จำนวนเงินประมาณ 9,000 บาท พอตนแจ้งความเสร็จ ได้มีตำรวจนายหนึ่ง มาเสนอกับตนว่าสามารถช่วยให้เงินคืนได้ แล้วจะโทรติดต่อกลับมา พอตนกลับถึงบ้านตำรวจนายนั้นได้โทรมาหาตนเอง แล้วถามว่าตนอยู่ที่ไหน จะมาคุยเรื่องที่จะช่วยให้ได้เงินคืน ตนเองจึงนัดให้มาหาที่วัดใหม่เกตุงาม แล้วตำรวจคนนั้นได้มาคุยกับตนเองว่า สามารถช่วยดึงเงินจากมิจฉาชีพกลับมาคืนให้ตนได้ โดยการให้โอนเงินเป็นจำนวน 60% ของยอดที่โดนหลอกไป ตนเองจึงบอกว่าขอตัดสินใจก่อน แล้วตำรวจคนนั้นก็ได้โทรติดต่อมาบ่อยมาก ตนเองเลยตัดสินใจทำตาม โดยจ่ายเงินไป 6,000 บาท แล้วตำรวจได้บอกว่าอีก 1 อาทิตย์ จะได้เงิน 6,000 บาทนี้คืน แล้วยอดที่มิจฉาชีพโกงไปจะทยอยคืนได้ภายใน 2 เดือน หลังจากนั้นตนเองก็ติดต่อไม่ได้เลย ผ่านไป 3 วัน ตนเองไปหาที่ สภ.แสนสุข ไปเจอตำรวจนายอื่น แล้วมีตำรวจบอกว่าตำรวจคนนี้ถูกย้ายไปที่ศาลแขวง พอกลับมาบ้าน ตำรวจคนนั้นได้ติดต่อมาหา โดยบอกว่า วันนี้จะโอนเงินคืนให้ แล้วโอนเงินมา 6,000 บาท แต่ยอดที่บอกตนว่าโดนมิจฉาชีพโกงไปนั้นไม่ได้คืนมา ซึ่งตอนแรกจะแจ้งความ โดยบอกว่า มีหลักฐานการโอนเงิน มีคลิปเสียง ถึงได้เงินคืนมา อยากเตือนคนอื่นๆว่าอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆอาจจะโดนหลอกได้ ตนเองคิดว่า น่าจะไม่ได้มีแค่ตนเองที่โดนหลอก น่าจะมีคนอื่นอีกด้วย ซึ่งตนเองก็แปลกใจ ตอนไปแจ้งความตำรวจนายนี้ จะกระซิบและเรียกออกมาคุยข้างนอก ไม่ให้คุยข้างใน เพราะกลัวตำรวจคนอื่นได้ยิน จากนั้นก็มาหาตนที่บ้านเพื่อมาพูดคุย ตอนนี้ความรู้สึกของตนแทบหมดศรัทธากับตำรวจแล้ว เพราะตอนได้รับความเดือดร้อน หวังไปหาที่พึ่งกับตำรวจ เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือ แต่ที่ไหนได้กลับถูกตำรวจหลอกเอาเงินซ้ำอีก ตนเองก็ยังคุยกับสามีว่า ทำไมตำรวจนายนี้ไม่ถูกดำเนินคดี จนกระทั่งมีผู้เสียหายโผล่มาอีก อีกทั้งยังมีพี่สาวตนก็เกือบตกเป็นเหยื่อของตำรวจนายนี้ แต่เมื่อวานถือว่าเป็นข่าวดี ที่ตำรวจนายนี้ถูกปลด และถูกจับดำเนินคดีแล้ว หวังว่า เคสกรณีแบบนี้จะเป็นตัวอย่างให้ ตำรวจ ทำงานอย่างสุจริตไม่เอาเปรียบหรือหลอกลวงประชาชนอีก