แฉ ตร.ตบทรัพย์ รีดเงินแลกทำคดี

วันที่ 6 ธ.ค. 2567 เวลา 16:41 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เพจดังแฉตำรวจยศ "สิบตำรวจเอก" ตบทรัพย์ ขอเงิน 150,000 บาท จากผู้เสียหายที่ไปแจ้งความคดีถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเอาเงิน อ้างจะได้มีกำลังใจในการทำงาน แฉ ตร.ตบทรัพย์ รีดเงินแลกทำคดี จ.ชลบุรี เป็นเรื่องใหญ่สะเทือนวงการตำรวจอีกครั้ง หลังจากเพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว" โพสต์เรื่องราวผู้เสียหายรายหนึ่ง ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเงินไปหลักล้านบาท ไปแจ้งความโรงพักที่บางแสน จังหวัดชลบุรี แต่กลับถูกตำรวจโทรไปเรียกตบทรัพย์ซ้ำอีก 150,000 บาท อ้างว่าคดีจะไวขึ้น และมีกำลังใจในการสืบสวน นอกจากนี้ ทางเพจยังโพสต์ข้อความเป็นแช็ตพูดคุย พร้อมสลิปผู้เสียหายโอนเงินให้สิบตำรวจเอก จำนวน 150,000 บาท เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงคลิปเสียงหลักฐาน ที่เป็นการเรียกตบทรัพย์ เปิดหลักฐาน ตร. ตบทรัพย์ หวังคืนเงิน หลังจากนั้น ลูกชายของผู้เสียหายรู้เรื่อง จึงไม่ยอม ติดต่อไปหาตำรวจนายนี้ ให้นำเงินมาชดใช้ แต่ตำรวจนายนี้ก็บ่ายเบี่ยง ผิดนัดหลายครั้ง โดยมีแช็ตที่ตำรวจคุยกับลูกชายผู้เสียหาย อ้างว่า ลงมากรุงเทพมหานคร มาหาเงินใช้หนี้ บอกจะคืนเงินให้ภายใน 17.00 น. สุดท้ายก็ไม่ได้เงินคืน เรื่องราวลุกลามไปถึงแม่และน้าของตำรวจ ต้องทำหนังสือสัญญา ยอมรับสภาพหนี้ บอกว่าลูกชายเป็นหนี้ และจะชำระคืนภายในวันที่ 23 พฤศจิกายน ไม่เกินเที่ยงตรง แต่สุดท้ายก็ไม่คืน ลูกชายผู้เสียหายยังโพสต์บอกว่า แม่และน้าของตำรวจ ต้องขี่รถไปกู้เงินเพื่อมาช่วยจ่ายหนี้ จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้เงินคืน จุดเริ่มต้น ถูกหลอกซื้อของออนไลน์ 900 บาท ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน พบกับ คุณเอ (นามสมมติ) ลูกชายผู้เสียหาย เล่าว่า คนที่โดนแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกคือคุณแม่ โดยแม่ได้ซื้อของออนไลน์ แล้วถูกหลอกเสียเงินไป 900 บาท แม่จึงพิมพ์ในกูเกิลค้นหาแจ้งความออนไลน์ แล้วไปเจอตำรวจปลอม หลอกให้กรอกข้อมูลแจ้งความออนไลน์ จากนั้นดึงเข้ากลุ่มไลน์ โดยในกลุ่มไลน์นั้น มีคนที่อ้างเป็นผู้เสียหายหลายคนอยู่ในนั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหน้าม้า แล้วก็หลอกแม่โอนเงินไป 9 ครั้ง เสียเงินไป 2.4 ล้านบาท เมื่อตนรู้จึงพาแม่ไปแจ้งความที่ สภ.แสนสุข ส.ต.อ. เสนอช่วย แต่ต้องโอนเงินรองบัญชีก่อน คุณเอเล่าต่อว่า หลังแจ้งความก็มีตำรวจชั้นประทวนรายหนึ่ง ยศสิบตำรวจเอก ซึ่งนั่งอยู่ในห้องที่ตนแจ้งความ ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด จึงได้เดินตามแม่ของตนเองมา และบอกว่าเขาช่วยได้ แม่จึงให้คุยกับตน ซึ่งสิบตำรวจเอกนายนั้นบอกว่า มีเพื่อนอยู่ สอท. (ตำรวจไซเบอร์) สามารถช่วยดึงเงินกลับมาได้ เป็นวิธีการใช้เกลือจิ้มเกลือ แต่ต้องโอนเงินมา รองบัญชีไว้ก่อน เพื่อจะดึงงบสอบสวนมาไว้ ทั้งนี้ เคยช่วยนักศึกษาคนหนึ่ง แล้วได้เงินคืน จากนั้นก็มีการแอดไลน์กันไว้ แล้วสิบตำรวจเอกนายนั้น บอกจะโทรศัพท์หา ตนกับแม่จึงเดินทางกลับบ้าน ให้โอน 2 แสนบาท ต่อรองลดให้ 5 หมื่นบาท คุณเอบอกว่า หลังกลับถึงบ้านไม่นาน สิบตำรวจเอกนายนี้ก็โทรศัพท์มาหา จะเข้ามาที่บ้าน จากนั้นก็ตามเข้ามาพร้อมกับเอกสารผู้ต้องหาหลายรูป แล้วบอกว่ามีวิธีการที่จะจับพวกที่โกงเงินของแม่ได้ และจะจับพวกบัญชีที่แม่โอนเงินไป ให้มารับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังบอกเหมือนที่คุยกันที่หน้าโรงพักว่า มีเพื่อนอยู่ สอท. ที่จะช่วยดึงเงินจากบัญชีม้าได้ แต่ต้องโอนเงินไปรองบัญชี 200,000 บาท เพื่อที่จะดูดเงินออกจากบัญชีม้าได้ ตนจึงต่อรองเหลือ 150,000 บาท จากนั้นโอนเข้าบัญชีของสิบตำรวจเอกนายนี้ อีก 6 วันต่อมา ตำรวจนายนี้ ก็ขอให้โอนเงินเข้าไปรองบัญชีเพิ่มอีก 10,000 บาท จากนั้นตนก็ถามว่าดึงเงินกลับมาได้คืนหรือยัง ก็บอกว่าได้คืนมาแล้วประมาณ 10,000-20,000 บาท  รู้สึกผิดปกติจึงขอเงินคืนทั้งหมด แต่ตำรวจนายนี้ผัดวันประกันพรุ่งและบ่ายเบี่ยงมาเรื่อย จนต้องไปพบผู้บังคับบัญชาระดับสูง และเมื่อเรื่องถึงแม่และน้าของสิบตำรวจเอก ก็มาขอทำสัญญา จะคืนเงินให้ทั้งหมด แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้เงินคืน จึงไปแจ้งความที่ สภ.แสนสุข เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ในมาตรา 147 และ 157 ส.ต.อ. ปัดให้สัมภาษณ์ปมตบทรัพย์ จากนั้นช่วงบ่าย ทางสิบตำรวจเอกที่ถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์ ถูกคุมตัวมาที่ สภ.แสนสุข เพื่อให้ปากคำพนักงานสอบสวน โดยทีมข่าวพยายามจะขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ทางสิบตำรวจเอกไม่ยอมพูดใด ๆ เอาแต่ดึงเสื้อมาคลุมศีรษะ แล้วเดินเข้าสถานีตำรวจไป  สั่งให้ออกจากราชการ ส.ต.อ. เซ่นคดีตบทรัพย์ ขณะที่ พันตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รักษาการจเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังประชุมว่า สิบตำรวจเอกที่ทำการตบทรัพย์ เป็นตำรวจของ สภ.แสนสุข จริง เพิ่งย้ายมาจากโรงพักในพื้นที่จังหวัดตราด เบื้องต้นสั่งการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้ว และให้ตำรวจนายนี้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ขณะเดียวกัน สิบตำรวจเอกนายนี้ จะตกเป็นผู้ต้องหา มีการดำเนินคดีแล้ว 3 ข้อหา ตามมาตรา 149 เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์, มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 341 ข้อหาฉ้อโกง ก่อนเตรียมนำตัวส่งศาลจังหวัดชลบุรี ขออำนาจศาลฝากขัง โดยพนักงานสอบสวนจะมีการยื่นคัดค้านประกันตัว จากการสอบสวนข้อเท็จจริง ผู้ต้องหามีประวัติติดการพนัน จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุในการตบทรัพย์ผู้เสียหาย และจากการสอบสวน ไม่พบผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดเพิ่มเติม ส่วนเงินที่ถูกตบทรัพย์ เจ้าหน้าที่จะช่วยติดตามเอาเงินคืนผู้เสียหายมาให้ เท่าที่สามารถทำได้ตามอำนาจหน้าที่ โดยผู้เสียหายสามารถติดตามทวงถามฟ้องร้องคดีแพ่งได้อีกทาง ส.ต.อ. ขอโทษตบทรัพย์ผู้เสียหาย ล่าสุด ตำรวจคุมตัวสิบตำรวจเอกไปฝากขังต่อศาล โดยเจ้าตัวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า "ก่อเหตุเพียงคนเดียว" ไม่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก โดยยอมรับว่าเอาเงินไปจ่ายหนี้พนัน ขอบคุณภาพจาก : Facebook อีซ้อขยี้ข่าว