สาวหล่อ จบชีวิต! หลังถูกสาวหลอกคบ สูญเงินกว่า 3 ล้าน

วันที่ 3 ธ.ค. 2567 เวลา 19:20 น.

สาวหล่อ จบชีวิต! หลังถูกสาวหลอกคบซ้อน ซ้ำอ้างป่วยมะเร็งขอยืมเงินรักษาตัว จนสูญเงินกว่า 3 ล้าน ด้านพ่อ-น้องสาว ลุยแจ้งความเพิ่มข้อหา "ฉ้อโก้ง" จากกรณีเมื่อวนัที่ 1 พ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง ได้รับแจ้งมีเหตุหญิงสาวคนหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุธาทิพย์ อายุ 33 ปี จุดเตาอั้งโล่รมควันตัวเองเสียชีวิตภายในรถเก๋ง เหตุเกิดภายใน พื้นที่ ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (3 ธ.ค.) น้องสาวและพ่อของ น.ส.สุธาทิพย์ ได้มีการร้องไปยังหลายรายการชื่อดังและมีการให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ น.ส.สุธาทิพย์ ตัดสินใจจบชีวิตในครั้งนี้ก็เพราะว่า ถูกสาวคู่รักหลอกสูญเงินหลายล้านบาทจนเครียดซึมเศร้าและจบชีวิตลง จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.พานทอง จ.ชลบุรี ไปพบกับน้องสาวของ น.ส.สุธาทิพย์ ได้ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นจากการแจ้งความไว้ตั้งแต่ทีแรกด้วยพยานหลักฐานไม่เพียงพอในการแจ้งความฉ้อโกง และวันนี้ได้เดินทางมาพร้อมหลักฐานเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม และแจ้งความกับหญิงสาวที่เป็นแฟนพี่สาวในคดีฉ้อโกง ซึ่งพี่สาวได้คบกับผู้หญิงคนนี้เมื่อเดือน มี.ค. 67 จนกระทั่งเดือน พ.ย. 67 เป็นระยะเวลา 7 เดือน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพี่สาวได้มีการโอนเงินให้หญิงสาวคนดังกล่าวมาโดยตลอด โดยหญิงดังกล่าวได้อ้างว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งจึงขอหยิบยืมเงินไปรักษาตัว ตลอดเวลาเวลาที่คบกันมา 7 เดือน ส่วนใหญ่ก็คุยกันอยู่แต่ในแช็ต มาพบกันประมาณ 4-5 ครั้ง แต่ 7 เดือนที่ผ่านมา ยืมเงินไปหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน เพราะมีสลิปการโอนหลายครั้ง และยอดเงินรวมทั้งหมดเกิน 3 ล้านบาท พอหลังจากพี่สาวเสียชีวิต ผู้หญิงคนนี้ก็ยังไปคุยกับสาวหล่ออีกคนและมีแพลนเตรียมจะแต่งงานกันอีกในเร็วเร็วนี้ และจากที่ไปคุยในรายการ ก็ได้โทรไปสอบถามก็ได้ข้อมูลว่าหญิงคนดังกล่าว คบซ้อนทั้งสองคน โดยการหลอกกับอีกฝั่งว่าเป็นพี่สาว เพื่อให้อีกคนสบายใจ จนกระทั่งความแตกโดยการที่ไปเห็นแช็ตว่าให้ไปเคลียร์กับฝั่งของพี่สาวตนให้จบ โดยอีกฝั่งก็รู้ว่าเป็นการคบซ้อนในความสัมพันธ์เชิงชู้สาว จนพี่สาวต้องเครียดเป็นซึมเศร้าจนกว่าเหตุจบชีวิตตัวเองลง และต่อมาทั้งคู่ก็ได้เดินทางขึ้นมาพบกับ พ.ต.ต.ประเสริฐ กุลบุตรดี สารวัตร(สอบสวน) สภ.พานทองเพิ่มเติมในการแจ้งข้อหาหญิง คนดังกล่าว ในข้อหาฉ้อโกง เพราะเป็นการถูกหลอกโดยการหยิบยืมเงินในการรักษาตัว ไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หา ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้สอบสวนเพิ่มเติมและขอพยานหลักฐานจากญาติของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป