คุณตาสุดช้ำ! ถูกลูกเอาเงินไปหมด แถมไล่พ่อให้ไปตาย

วันที่ 3 ธ.ค. 2567 เวลา 17:55 น.

คุณตาวัย 78 ปี อดีตโบรกเกอร์ เคยมีเงิน 30 ล้านบาท แต่ถูกลูกเอาเงินไปหมด แถม “ไล่พ่อให้ไปตาย” ตอนนี้อาศัยนอนที่โรงพัก หลังจากนี้จะไป จ.ภูเก็ต หางานทำ แต่ถ้าไปแล้วไม่มีงานก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม วันนี้ (3 ธ.ค. 67) นายเอ (นามสมมติ) อายุ 78 ปี ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่ สภ.บางใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีที่อยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเบื้องต้นพบบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ และบัตรคนพิการประเภท 3 และ 4 พร้อมกับกระเป๋า 2 ใบ จึงช่วยประสานพาไปส่งที่ศูนย์พักพิงคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี แต่คุณตาไม่ยอมอยู่ขอกลับมาที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพากลับมา จากการสอบถาม คุณตาเอ เล่าว่า เมื่อก่อนตนทำงานเป็นโบรกเกอร์และคอยประสานกับชาวจีนในเรื่องของการหาสินค้าต่าง ๆ มีเงินมากถึง 20-30 ล้านบาท และได้แต่งงาน มีลูก 4 คน ลูกสาว 2 คน และลูกชาย 2 คน ก่อนหน้านี้ตนทะเลาะกับลูกสาวคนโต และมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ซึ่งตนเคยพูดกับลูกทั้ง 4 คนว่า ถ้าไม่มีใครเลี้ยงดูตน ตนก็จะขายบ้าน ซึ่งลูก ๆ ก็ไม่มีใครรับปากจะดูแลตน ตนจึงตัดสินใจขายบ้านไปในราคากว่า 7 ล้านบาท และใช้ชีวิตโดยการขับรถไปเรื่อย ๆ อาศัยนอนบนรถมา 11 ปี ต่อมารถถูกขโมยไป ส่วนเงินที่ขายบ้านได้ ลูก ๆ ก็หลอกเอาเงินไปจนหมด ทุกวันนี้ใช้เงินจากเบี้ยคนชราเดือนละ 700 บาท และเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท เนื่องจากขาข้างซ้ายมีอาการอ่อนแรง ก่อนหน้าที่ ตนจะมาอยู่ที่โรงพักนั้น ตนอยู่แถวสายใต้และเจอกับผู้ชายคนหนึ่งเขาช่วยพามาหาห้องเช่ารายวันอยู่แถวบางใหญ่ โดยจ่ายค่าเช่าวันละ 350 บาท ซึ่งทางเจ้าของห้องเช่าก็หางานเกี่ยวกับการนวดให้ตนทำ แต่ตนปฏิเสธเพราะว่านวดไม่เป็น หลังจากนั้นไม่นานตนก็ต้องหนีออกมา เพราะว่าเจ้าของห้องเช่าเป็นเกย์ก็พยายามทำอนาจารตน โดยการใช้มือล้วงไปที่อวัยวะเพศของตนและจับมือของตนไปจับอวัยวะเพศของเขา นอกจากนี้ คุณตาเอ ยังเล่าว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยติดต่อลูกสาวคนโตของตน เพื่อจะให้ลูกสาวมารับตน แต่ลูกสาวกลับตอบมาว่า “ให้พ่อไปตายซะ” ซึ่งตนก็เสียใจมากและขอตัดขาดไม่เจอกันอีกต่อไป ตนเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว 3 ครั้ง โดยการกินยาเบื่อหนูแต่ก็ไม่ตาย เคยไปกระโดดน้ำแถวสะพานพระปิ่นก็มีคนช่วยไว้ เคยไปกระโดดน้ำที่บางแสนก็มีคนช่วยไว้อีก ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือตนอย่างดีทั้งเรื่องที่พัก อาหารการกิน ประสานพาไปยังศูนย์พักพิงคนไร้ที่พึ่ง แต่ศูนย์ฯ ไม่สามารถรับตนไว้ได้ เนื่องจากตนมีพื้นเพอยู่ที่กรุงเทพฯ ทุกวันนี้ตนไม่รู้จะอยู่ไปทำไม แต่ตนอยากจะไป จ.ภูเก็ต เพื่อไปหางานทำ เพราะ ตนมีความสามารถช่วยในเรื่องแปลภาษาจีนได้ แต่หากไปแล้วไม่มีงานก็คงจะกระโดดลงทะเลให้จบไป