ขับแช่ขวา เช็กประวัติมีหมายจับคดีฉ้อโกงกลุ่มชาติพันธุ์

วันที่ 3 ธ.ค. 2567 เวลา 10:57 น.

ขับแช่ขวาเป็นเหตุ ตร.ทางหลวงเรียกจับออกใบสั่ง เช็กประวัติเจอหมายจับหลอกกลุ่มชาติพันธุ์ ร่วมอบรมนับหมื่นคน อ้างช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิอยู่ในไทย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ป้องเกียรติ สังคหิรัญ รอง สว.ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. จับกุม นายประยูร อายุ 63 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1968/2567 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยคดีนี้ตำรวจทางหลวง พบรถยนต์เอนกประสงค์สีดำ ทะเบียนจังหวัดตรัง ขับรถในลักษณะชิดขอบทางด้านขวา (แช่ขวา) จึงได้เรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดรถ เพื่อออกใบสั่ง พบนายประยูร อดีตทหารพราน เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบพบเป็นบุคคลตามหมายจับ ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 คดีนี้เมื่อประมาณต้นเดือน เม.ย.67 กลุ่มผู้เสียหาย(ชาติพันธุ์) ได้เดินทางไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยให้การกับพนักงานสอบสวนว่า นายประยูรกับพวกประมาณ 10 คน ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนในพื้นที่ ซึ่งมีทั้งคนไทยในพื้นที่ คนไทใหญ่ และคนกะเหรี่ยง เข้ามาร่วมอบรมสัมมนาโดยอ้างว่า เป็นการปลูกฝังให้รักในสถาบัน เทิดทูนสถาบัน รักและสืบสานในวัฒนธรรมอันดีของไทย ใช้เวลาในการอบรมแต่ละครั้งไม่เกิน 3 ชั่วโมง เก็บเงินจากผู้เข้าอบรม คนละ 200,300,400,500 บาท และจัดเก็บเงินเป็นค่าเสื้อสีเหลือง อีกคนละ 350-390 บาท โดยนายประยูรฯและพวก แจ้งกับคนที่มาอบรมว่า หากเข้ารับการอบรมไปแล้ว จะไปช่วยในเรื่องของการทำหรือต่ออายุบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน 10 ปี บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย พาสปอร์ตของบุคคลที่ไม่ใช่คนไทย ซึ่งจะไปช่วยต่อรองกับเจ้าหน้าที่รัฐในการจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่มีจำนวนมากให้สามารถจ่ายได้น้อยลง แต่หลังจากได้รับเงินจากผู้เข้ารับการอบรมแล้ว ผู้ต้องหากับพวกก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือตามที่แจ้ง จากข้อมูลพบว่าผู้ต้องหากับพวกได้จัดอบรมให้กับกลุ่มคนชาติพันธุ์ (คนไทใหญ่ คนกะเหรี่ยง) ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มาตั้งแต่ปี 65 โดยจัดอบรมแบบสัญจร ไปในหลายพื้นที่ เช่น อ.แม่อาย อ.สารภี อ.หางดง อ.สันทราย อ.เมืองเชียงใหม่ และอีกหลายอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเก็บค่าใช้จ่ายตามที่กล่าวมาโดยตลอด มีผู้ที่เข้ารับการอบรม ประมาณ 10,000 คน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา