ทร. เร่งเจรจาปล่อย 4 คนไทย ขอคืนเรือประมง

วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เวลา 18:01 น.

ทร. เร่งเจรจาปล่อย 4 คนไทย ขอคืนเรือประมง เบื้องต้นทางการเมียนมา อ้างกลุ่มเรือไทย 15 ลำ เข้าไปทำประมงในน่านน้ำเมียนมา ทัพเรือภาคที่ 3  จัดกำลังลาดตระเวนรักษาอธิปไตย สร้างความอุ่นใจให้ชาวประมงที่ทำกินโดยสุจริต ความคืบหน้ากรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย วันนี้ (1 ธ.ค.67) พล.ร.อ. พาสุกรี วิลัยรักษ์  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ได้รับแจ้งจากเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4  ว่าวานนี้ (30 พ.ย.67) เวลา 00.45 น. ขณะที่เรือกำลังทำการประมง ร่วมกับกลุ่มเรือประมงบริเวณพื้นที่ ด้านทิศตะวันตกของเกาะพยาม จังหวัดระนอง กลุ่มเรือประมงได้ถูกเรือรบเมียนมาทำการใช้อาวุธ โดยตัวเรือได้รับความเสียหายน้ำเข้าเรือปริมาณมาก และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน โดยเรือรบเมียนมาได้เข้าจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำ คือ เรือ ส เจริญชัย 8 โดยมีลูกเรือจำนวน 31 คน ถูกจับกุมไปยังเกาะย่าน เชือกประเทศเมียนมา พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่  3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.274 ให้การช่วยเหลือเรือประมงที่ได้รับความเสียหายรวมถึงเข้าค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือประมง ดวงทวีผล 333 ที่ได้รับบาดเจ็บ และพลัดตกน้ำ ซึ่งผลการค้นหาพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำขณะโดดน้ำหนี และผู้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายศรีเพ็ชร อายุ 44 ปี ไต๋เรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และลูกเรือชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อ ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย ได้นำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ส่งท่าเทียบเรือน้ำลึก จ.ระนอง เพื่อเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดระนองต่อไป โดยมอบให้ศูนย์ประสานงานชายแดนทางทะเลไทยเมียนมา ส่งกำลังพลเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์และช่วยเหลือในการนำส่ง     โดยสรุป คือ ได้ช่วยเหลือเรือประมงทั้งหมดจำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือดวงทวีผล 333 มีลูกเรือ 29 คน ( เสียชีวิต 1 คน ) และ เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีลูกเรือ 33 คน (บาดเจ็บ 2 คน) ในส่วนของ การดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือการประสานงานตามกลไกของคณะกรรมการ ในการเจรจานำเรือและลูกเรือประมงกลับสู่ประเทศไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3  ได้สั่งการให้ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย - เมียนมา ติดต่อประสานงานกับ ผู้บังคับการสถานีเรือ 58  เกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา เพื่อติดตามสถานการณ์เรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุม ซึ่งทราบว่าเรือรบเมียนมาได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงไทย 1 ลำจริง โดยทางการเมียนมา กล่าวอ้างว่ามีกลุ่มเรือประมง จำนวนประมาณ 15 ลำ เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำเมียนมา และจากการตรวจสอบพบว่า เรือประมงทั้ง 15 ลำ เป็นเรือจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่เข้ามาหากินทำการประมงในเขตน่านน้ำของ จ.ระนอง ซึ่งอาจไม่ชำนาญพื้นที่บริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 25/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา จังหวัดระนอง (ประธาน TBC ฝ่ายไทย) จะมีการประชุมร่วมกับกับคณะกรรมการชายแดนไทยส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา จังหวัดเกาะสอง (ประธาน TBC ฝ่ายเมียนมา) เพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ถูกจับกุม พร้อมทั้งขอให้ปล่อยตัวลูกเรือสัญชาติไทยทั้ง 4 คน พร้อมเรือประมงกลับประเทศไทย  นอกจากนี้เลขานุการ TBC ฝ่ายไทย ได้มีการประสานงานทางข้างไปยังเลขานุการ TBC ฝ่ายเมียนมาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานกับผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ จังหวัดเกาะสอง      โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 3  ยังคงจัดกำลัง ลาดตระเวนในพื้นที่ และยืนยันการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชาวประมงที่ทำกินโดยสุจริต และได้เพิ่มเติมกำลังโดย จัดเรือ ต.993  ออกเรือลาดตระเวนในพื้นที่  และให้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ 451 ตรวจการณ์  พลอตเป้าติดตามเรือในพื้นที่ และทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป้าให้กับเรือที่ปฏิบัติการในพื้นที่เพื่อแจ้งเตือนให้กลุ่มเรือประมงในพื้นที่ได้รับทราบและหลีกเลี่ยงการทำการประมงในพื้นที่ที่อาจไม่ปลอดภัย พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงไทย ทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยไม่เข้าไปทำการประมงในพื้นที่ที่มีความความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด