นายกฯ เชิญชวนประชาชนรับชมขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

วันที่ 29 พ.ย. 2567 เวลา 14:35 น.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค.67-14 ก.พ.68    วันนี้ (29 พ.ย.67) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ประชาสัมพันธ์การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นการชั่วคราวเนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ72 พรรษา และเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ได้ในวันที่ 4 ธ.ค.67 ตลอดเส้นทาง และประชาชนสามารถสักการะพระเขี้ยวแก้วในระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.67-14 ก.พ.68 สำหรับการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวว่า รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยการอัญเชิญวันที่ 4 ธ.ค.นี้ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมีสมเด็จพระราชาคณะ ซึ่งกรรมการมหาเถรสมาคมมอบหมายเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเริ่ม เวลา 17.00 น. รัฐบาลได้จัดให้มีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปยังท้องสนามหลวง จากนั้นเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าสักการะ ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568  ตั้งแต่เวลา 07.00 - 20.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมดอกไม้สักการะไว้ให้กับประชาชน โดยประชาชนไม่ต้องนำมาเอง และจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) กลับสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ทุกหน่วยงานพร้อมดูแลอำนวยความสะดวกให้กับคณะปกปักรักษาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ของฝ่ายจีน การดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าสักการะ การรักษาความปลอดภัย การประชาสัมพันธ์ ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้านในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 โซน ประกอบด้วย     โซนที่ 1 “ดับขันธปรินิพพาน มกุฎพันธนเจดียสถาน” นำเสนอเรื่องราวพุทธประวัติในการประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จปรินิพพาน โดยเน้นในช่วงพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน     โซนที่ 2 “พุทธะบารมีพระสรีระธาตุ” นำเสนอเรื่องราวประวัติของพระสรีระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก     โซนที่ 3 “พระเขี้ยวแก้ว” นำเสนอเรื่องราวประวัติ ความสำคัญ และความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)     โซนที่ 4 “ใต้ร่มเศวตฉัตร ทศมรัช พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกและมีพระราชศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา สืบสานราชประเพณีสืบเนื่องมาจนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ     โซนที่ 5 “ความสัมพันธ์ ไทย-จีน” นำเสนอเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญที่สร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนในด้านต่าง ๆ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ส่งเสริมคำว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”