น้ำท่วมภาคใต้ "บิณฑ์" นำทีมอาสาฯ ลุยน้ำท่วมช่วยชาวบ้าน

วันที่ 29 พ.ย. 2567 เวลา 06:33 น.

เช้านี้ที่หมอชิต - เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดยะลา โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นำทีมมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดปฏิบัติช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม "บิณฑ์" นำทีมอาสาฯ ลุยน้ำท่วมช่วยชาวบ้าน จ.ยะลา บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมงานลุยน้ำท่วมช่วยเหลือผู้สูงอายุ เป็นคุณตา อยู่ในอาการหนาวสั่น และคุณยาย เป็นผู้ป่วยติดเตียง ในซอยไชยโสธร หมู่ 4 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา หลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือให้ช่วยอพยพผู้ประสบภัย จึงเร่งนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.5- 2 เมตร เบื้องต้นทราบว่า ตากับยายต้องทนแช่น้ำแบบนี้มาแล้ว 2 วัน และยังไม่ได้กินข้าวเลย นอกจากนี้ ในระหว่างเส้นทางที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ทีมกู้ภัยยังพบวัว จำนวน 10 ตัว ถูกผูกไว้กับต้นไม้ ระดับท่วมสูงเกือบมิดหัว ส่งเสียงร้องดังระงม ที่สลดใจยังพบว่ามีวัวที่ตายเพราะจมน้ำหลายตัว ทีมกู้ภัยต้องเร่งเข้าช่วยเหลือวัวที่ยังมีชีวิตรอด โดยตัดเชือกที่ผูกวัวกับต้นไม้ออก เพื่อให้วัวตัวใหญ่สามารถเดินขึ้นจากน้ำได้ ส่วนวัวตัวเล็ก ทีมกู้ภัยได้ช่วยกันอุ้ม และลากขึ้นมาไว้บนเรือ ทั้งนี้ คาดว่าฝูงวัวดังกล่าว เจ้าของวัวน่าจะเคลื่อนย้ายมาผูกไว้เพื่อหนีน้ำ แต่ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำท่วมถึงจุดที่ผูกวัวไว้ ขณะที่ ชาวบ้านบอกว่าตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้ถือว่าน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลา ด้วยตนเอง เน้นย้ำอพยพประชาชนเป็นการด่วนเพื่อความปลอดภัย ผู้ว่าฯ เผยว่า พื้นที่วิกฤตสุดขณะนี้ คือ พื้นที่ตำบลท่าสาป และตำบลหน้าถ้ำ ในอำเภอเมืองยะลา สิ่งสำคัญในการเข้าช่วยเหลือประชาชน คือเรือ เพื่อขนย้ายพี่น้องประชาชนออกจากบ้าน มาที่ปลอดภัยที่ได้จัดเตรียมไว้ สิ่งที่ตามมาคือเรื่องของอาหารปรุงสุก ทั้งนี้ ในพื้นที่อำเภอรามัน ระดับเริ่มสูงขึ้นล้นตลิ่ง ได้มีประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำสายบุรี เตรียมยกของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเมื่อเวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และหัวหน้าส่วนราชการ หารือวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา ช่วยเหลือ และเยียวยาพี่น้องประชาชนชาวยะลา ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา น้ำซัดรถกระบะตกคลอง คนขับสูญหาย จ.สงขลา ที่จังหวัดสงขลา ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึก เมื่อมีรถกระบะขับฝ่ากระแสน้ำเชี่ยว และเครื่องดับ ก่อนถูกน้ำซัดทั้งคนทั้งรถหายจากจุดที่รถตกไกลกว่า 1 กิโลเมตร โดยรถกระบะโผล่แค่หลังคา เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานจนดึงรถขึ้นจากน้ำได้ ส่วนคนขับชื่อ นายวีรยุทธ วุฒิสันติกุล อายุ 67 ปี ถูกน้ำพัดสูญหาย ขณะนี้ยังไม่พบร่าง เหตุเกิดในคลองทุ่งงาย หลังตลาดนัดบ้านทุ่งงาย ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ สงขลา ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 16 อำเภอ ส่วนภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสงขลา มีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 22-28 พฤศจิกายน ทางจังหวัดจึงต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติทั้ง 16 อำเภอ ได้รับผลกระทบแล้ว 93 ตำบล 671 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 48,947 ครัวเรือน ขณะนี้หลายพื้นที่ของจังหวัดยังคงมีน้ำท่วมสูง บางจุดเส้นทางถูกตัดขาด คาดว่าจะฝนตกหนักถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน นี้ สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือ อำเภอนาทวี มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 13,873 ครัวเรือน รองลงมาคืออำเภอหาดใหญ่  จำนวน 6,640 ครัวเรือน พบแล้ว ร่างหญิงพลัดตกคลอง จ.พัทลุง ที่จังหวัดพัทลุง ตามความคืบหน้าการค้นหาร่างของหญิง อายุ 49 ปี ที่พลัดตกคลองพร้อมหลานชาย อายุ 3 ขวบ ขณะสองยาย-หลานพากันไปเดินดูน้ำหลากในคลองหลาโยง บ้านเกาะเเตระ ตำบลท่าแค แล้วเกิดพลัดตกลงคลองทั้งคู่ วันนั้นสามารถช่วยชีวิตเด็กชายไว้ได้ ส่วนยายจมน้ำสูญหาย เหตุเกิดวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อาสากู้ภัยฯ ใช้เวลา 2 วัน กว่าจะค้นหาร่างนางสาวโชติกา อายุ 49 ปี ที่พลัดตกลงไปในคลอง ห่างจากจุดเกิดเหตุกว่า 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องนำร่างขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เพราะจุดที่พบร่างกระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว อีกทั้งยังมีฝนตกต่อเนื่อง ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของญาติ ๆ ที่มารอรับร่างเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศ เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำสายหลัก และน้ำท่วมขัง ภาคใต้ตอนล่าง