เจ๊หนิง พาหลานชายมอบตัวคดีแจ้งความเท็จ ยันเห็น เมียอดีตบิ๊กตำรวจ ขึ้นคอนโดจริง

วันที่ 28 พ.ย. 2567 เวลา 18:29 น.

"เจ๊หนิง" พาหลานชายมอบตัวคดีแจ้งความเท็จ ยันเห็นเมียอดีตบิ๊กตำรวจ มากับพวกอีก 3 คน หิ้วกระเป๋าสีดำออกจากห้องพักคอนโด ยื่นเงินสด 7.5 หมื่นบาท ตำรวจให้ประกันตัว จากกรณี น.ส.ธนัฎฐา หรือหนิง อดีตอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แจ้งความดำเนินคดีภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ก่อเหตุลักเงินสดและทองคำมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท ที่จะใช้ไว้เป็นสินสอดในงานแต่งงาน ต่อมาคู่กรณีได้แจ้งความกลับ ฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา ซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับ น.ส.ธณัฏฐา, พ.ต.อ.ภีมพจน์ สามี และนายพงษ์พัฒน์ หลานเจ๊หนิง อายุ 23 ปี ในข้อหา ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน เป็นการเพื่อจะกลั่นแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ล่าสุด วันนี้ (28 พ.ย.67) น.ส.ธนัสฐา เดินทางพา นายพงษ์พัฒน์ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ผกก.สน.พระโขนง ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.1120/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น น.ส.ธนัสธา กล่าวว่า วันนี้พาหลานเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากทราบว่าถูกออกหมายจับดัวย ซึ่งตนได้เตรียมเงินสดจำนวน 75,000 บาทไว้ เพื่อขอยื่นประกันตัวหลานแล้ว ซึ่งหลานชายเพิ่งกลับมาจากเชียงรายมาหาตน และเดินทางจากนครปฐมเพื่อมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้หลานไม่ได้รับหมายเรียกใด ๆ เลย โดยปกติหมายจะถูกส่งไปยังภูมิลำเนา จ.เพชรบูรณ์ แต่ได้ตรวจสอบแล้วก็ไม่มี เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือในวันเกิดเหตุ แต่ไม่พบว่านายพงษ์พัฒน์อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น นายพงษ์พัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้พกโทรศัพท์ไว้ที่ตัว เนื่องจากโทรศัพท์พัง แต่ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุตนได้เดินทางไปที่คอนโดดังกล่าว และพบภรรยาของอดีตนายพลตำรวจจริง ในวันเกิดเหตุ ตนนั่งแท็กซี่ไปที่คอนโดเวลาประมาณบ่าย 2 และขึ้นห้องพักของป้าหนิง ที่ชั้น 7 ก็พบภรรยาของอดีตนายพลตำรวจเข้าไปในห้อง จากนั้นเห็นถือกระเป๋าสีดำคล้ายกระเป๋าโน๊ตบุ๊กออกมา ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด ตนได้ให้กับพนักงานสอบสวนไว้ในสำนวนหมดแล้ว จากนั้นตนลงจากคอนโดและไปยืมโทรศัพท์มือถือจากคนที่อยู่ด้านล่าง เพื่อโทรไปหาป้าหนิง เมื่อป้ามาถึงก็รู้สึกตกใจ ตนก็อธิบายให้ป้าฟังว่า มีผู้หญิง 1 คนมากับพวกอีก 3 คนเข้าไปในห้อง ทั้งนี้ ตนไม่รู้จักและไม่ทราบว่าเป็นภรรยาของอดีตนายพลตำรวจ แต่เคยเจอกับภรรยาอดีตนายพล 1 ครั้งที่บ้านพักในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งภรรยาของอดีตนายพลตำรวจไปเข้าห้องน้ำที่บ้าน น.ส.ธนัฎฐา กล่าวอีกว่า ตนก็พร้อมที่จะให้ทางตำรวจตรวจสอบเรื่องเบอร์โทรศัพท์ ที่หลานใช้โทรเข้าในวันเกิดเหตุ รวมถึงคดีที่ตนแจ้งความไว้ ได้เตรียมหลักฐานการซื้อทองคำไปมอบให้ในชั้นศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่เข้าไปเก็บพยานหลักฐาน และรอยนิ้วมือที่คอนโดฯ เกิดเหตุ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ น.ส.ธนัฏฐาได้นำภาพหลักฐานที่คนร้ายงัดประตูห้องพักของ พ.ต.อ.ภีมพจน์ ภายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในห้องได้ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่ น.ส.ธนัฏฐาจะถูกศาลออกหมายจับให้กับผู้สื่อข่าวดู ซึ่งทางฝ่ายสามีอยู่ระหว่างขอคลิปกล้องวงจรปิดจากทางโรงเรียน เพื่อจะใช้เป็นหลักฐาน ในการติดตามตัวผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว ต่อมา พ.ต.ท.ประยูร ทองนุ่น รอง ผกก.สอบสวน สน.พระโขนง ได้นำตัวนายพงษ์พัฒน์ ลงมาทำประวัติและพิมพ์ลายนิ้วมือ ภายในห้องสืบสวน ภายหลังการสอบปากคำนายพงษ์พัฒน์ ฯ เสร็จสิ้น ทางพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว โดย น.ส.ธนัฎฐา ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด ก่อนปล่อยตัวกลับ