ชายคลั่ง! ยิงสางแค้นเสียชีวิต 3 คน
วันที่ 27 พ.ย. 2567 เวลา 16:10 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ชายอายุ 58 ปี คลั่งบุกยิงชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย พยานเผยปมเหตุ เกิดจากเงินหมื่นของรัฐบาล นัดไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว ก่อนลงมือสังหารโหด ชายคลั่ง! ยิงสางแค้นเสียชีวิต 3 คน จากคลิปจะเห็นชายเสื้อขาว เดินกวาดขยะอยู่ข้างถนน จังหวะนั้นมีชายคนหนึ่งเดินข้ามถนนมา แล้วกระหน่ำยิง 3 นัดซ้อน เสียชีวิตทันที ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้านบริเวณนั้น จากนั้นเดินเข้าไปยิงลูกสาวผู้เสียชีวิตในบ้าน บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตในโรงพยาบาล ยังไม่จบแค่นั้น คนร้ายยังเดินทางไปอีกหมู่บ้าน ไปก่อเหตุยิงชาวบ้านอีกรายเสียชีวิต จุดนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ก่อนจะหลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 06.00 น. ที่ผ่านมา โดยจุดแรกที่คนร้ายเริ่มก่อเหตุ เป็นพื้นที่หมู่บ้านตะเคียนทอง หมู่ที่ 2 ตำบลโนนม่วง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจุดที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ ขณะผู้เสียชีวิต คือ นายปรีชา อายุ 54 ปี กำลังกวาดขยะอยู่ริมถนน และ นางสาววชินี อายุ 28 ปี อยู่ในบ้าน ส่วนจุดที่ 2 เป็นพื้นที่บ้านฝายหิน หมู่ที่ 6 ตำบลโนนม่วง อำเภอศรีบุญเรือง ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร ผู้เสียชีวิต คือ นายถาวร อายุ 66 ปี เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านฝายหิน ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสามารถ อายุ 58 ปี เป็นคนในพื้นที่เดียวกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย มีการทิ้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไว้บริเวณหมู่บ้านซำขอนแก่น อำเภอนากลาง ก่อนหนีไป เปิดโพสต์เครียดปัญหาครอบครัว-หนี้สิน ทีมข่าวตรวจสอบเฟซบุ๊กของ นายสามารถ (คนก่อเหตุ) พบว่า มักโพสต์ข้อความตัดพ้อปัญหาครอบครัว ข้อความทำนองว่า "ลูกมาบ้าน ก็ไม่เคยนอนค้างแม้แต่คืนเดียว ไม่เจอกับพ่อตั้ง 5 ปี เมียก็มานอนแค่คืนเดียว เมียผมกับผม ใครเล่นชู้ก่อนกัน" และมีการแชร์เพลงเศร้าเชิงอกหัก น้อยใจชีวิตอีกหลายโพสต์ นอกจากนี้คนก่อเหตุยังเคยโพสต์เรื่องปัญหาหนี้สิน เช่น ข้อความที่ระบุทำนองว่า "อย่าบีบกัน คอยไป เดี๋ยวก็ดีเองครับ คนที่ไม่เคยจน ไม่เคยลำบาก จะไม่เข้าใจ เพราะเขารวยอยู่แล้วครับ" และยังมีข้อความว่า "กูจะรอพวกท่าน 3 คน แค่วันที่ 5 พวกท่านใจดำกับกูจริงหรือ ชีวิตกูมีแค่ 500 จริง ๆ หรือ" ข้อความนี้อาจหมายถึงผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนหรือไม่ และผู้ก่อเหตุยังมีการโพสต์ภาพกระสุนปืนด้วย ล่าสุด เมื่อคืนนี้ก่อนจะก่อเหตุ คนร้ายได้โพสต์ข้อความล่าสุด ระบุว่า "คืนนี้นอนไม่ได้ เขานัดไปโรงพัก อยากรู้มันจะจบแบบไหน เป็นคนที่อยากรู้ จบดี หรือ ไม่ดีครับ" และบางข้อความยังระบุว่า "ชีวิตแลกชีวิต" กระทั่ง 06.00 น. เช้าที่ผ่านมา ก็บุกก่อเหตุดังกล่าว เปิดปมทะเลาะ เงินหมื่นบาท จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นคนรู้จักกัน โดยผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่เป็นพ่อลูกกัน เคยยืมเงินผู้ก่อเหตุ และได้ใช้บัตรเอทีเอ็ม ไปค้ำประกันในการยืมเงิน กระทั่งโครงการเงิน 10,000 บาท ของรัฐบาลออกมา ผู้ก่อเหตุใช้บัตรเอทีเอ็มของสองพ่อลูกไปกดเงินมาใช้ ทำให้สองพ่อลูกไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีบุญเรือง มีการนัดไกล่เกลี่ยกันในวันนี้ (27 พ.ย.) ประเด็นนี้ ทีมข่าวสอบถาม นางสนิท น้องสาวของนายปรีชา กล่าวว่า พี่ชายตนเองและผู้ก่อเหตุ เป็นเพื่อนกัน ผู้ตายจะยืมเงินจากผู้ก่อเหตุครั้ง 200-300 บาท เป็นประจำ พอเงินคนพิการออก ก็จะให้ผู้ก่อเหตุนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเอาคืน โดยพี่ชายฝากบัตรเอทีเอ็มไว้กับผู้ก่อเหตุ แต่ช่วงเงินหมื่นออกมา ผู้ก่อเหตุไปกดเอาเงินดังกล่าวไปใช้ ทำให้พี่ชายไม่พอใจ จึงต้องแจ้งความเอาผิด ส่วน นายถาวร (ผู้เสียชีวิตอีกราย) ที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ก่อนหน้านี้เคยพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ก่อเหตุ ที่เปิดอยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจากมีการรับแจ้งว่า มีคนเอาของที่ลักขโมยมาไปขายให้ นายสามารถ ทาง นายถาวร จึงเตือนว่า อาจเข้าข่ายรับซื้อของโจร อาจเป็นสาเหตุให้ นายสามารถ โกรธแค้น แล้วบุกยิง นายถาวร เป็นศพที่ 3 ญาติเผยเป้าหมายหวังฆ่า 10 กว่าคน ขณะเดียวกัน แอดมินเพจบ้านดุงอัปเดต แจ้งข่าวเตือนภัยว่า นายสามารถ มีความเครียด เรื่องคดีที่มีนัดไกล่เกลี่ยกัน จึงก่อเหตุไล่ยิงคนที่เกี่ยวข้อง คนที่เคยมีความบาดหมางกัน และญาติ ๆ เคยได้ยินว่า นายสามารถ มีความตั้งใจจะเก็บให้หมดเป้าหมาย 10 กว่าคน เมียมือยิง เผยคำพูดผัวหลังก่อเหตุ ด้านภรรยาของ นายสามารถ ผู้ก่อเหตุ ได้เผยคำพูดสามีหลังก่อเหตุยิง 3 ศพ โดยได้โทรศัพท์มา บอกว่า "จะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่ขอไปเจอและไปเคลียร์กับอีก 1 คน ชื่อ นางเล็ก อาศัยอยู่ที่ขอนแก่น เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เช่นกัน หากเคลียร์เสร็จจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทันที" ภรรยาผู้ก่อเหตุ เผยอีกว่า สามีขอเวลา แล้วจะมอบตัว ก่อนก่อเหตุก็ไม่ได้คุยกัน เรื่องส่วนตัวไม่ได้คุยกัน ส่วนตัวเชื่อมีโอกาสที่สามีจะจบชีวิตตัวเอง เพราะตอนนี้เขาไม่มีใครแล้ว จนท.ปูพรมล่ามือยิง ด้าน นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมให้ข้อมูลว่าตอนนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด และวางกำลังตามพื้นที่โรงเรียน และวัด คาดว่าตอนนี้น่าจะซ่อนตัวอยู่บริเวณรอยต่อ จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดเลย ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกำลังปูพรมเร่งล่าตัว ชาวบ้านเผยมือยิงขอกินข้าว ก่อนหนีเข้าป่า ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่ง เป็นแม่ครัวของวัดภูคำเป้ บ้านห้วยป่าน ตำบลผาสามยอด อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ให้เบาะแสว่า เมื่อช่วงเช้า มีชายคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่วัด แล้วมาขอข้าวกับกาแฟ จึงให้นั่งกินภายในโรงครัว ลักษณะรีบกิน เหมือนวิตกกังวลบางอย่าง หลังกินเสร็จก็ไปล้างมือที่ก๊อกน้ำ แล้วเดินเข้าป่า จนมาทราบภายหลังเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุยิง 3 ศพ ซึ่งหากดูจากแผนที่ จุดสุดท้ายที่คนร้ายก่อเหตุ พื้นที่บ้านฝายคำหิน อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดมหาสารคาม มาถึงวัดภูคำเป้ จังหวัดเลย ระยะทางห่างกันประมาณ 19 กิโลเมตร ระดมเจ้าหน้าที่ 60 นาย ล่าตัวมือปืน พันตพรวจเอก ณัฐกฤษ คำวิเศษชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ได้นำกำลังจาก สภ.เอราวัณ พร้อมชุดสืบสวนจังหวัด ทำงานร่วมกับตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง และชุดสืบสวนจังหวัดหนองบัวลำภู กว่า 60 นาย ปฎิบัติไล่ล่าคนร้าย ที่คาดว่ายังหลบอยู่ในป่ารอยต่อ 3 อำเภอ อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู และ อำเภอเอราวัณ อำเภอผาขาว จังหวัดเลย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังตัวเองขั้นสูงสุด เพราะมีการแจ้งข้อมูลว่า มือปืนรายนี้ ชอบสะสมอาวุธปืน และน่าจะพกปืนติดตัวไว้หลายกระบอก ลูกชายมือยิงเผยพ่อเคยขู่ฆ่า-วอนพ่อมอบตัว ขณะที่ลูกชายของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองมาอาศัยอยู่บ้านภรรยาที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี พอรู้ข่าวว่าพ่อก่อเหตุยิงคนตายหลายศพก็ตกใจ และไปดูในเฟซบุ๊ก ก็เห็นพ่อโพสต์ขู่จะฆ่าตนเองและภรรยา จึงหอบเมีย ลูกน้อย และพ่อตา แม่ยาย หนีมาอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เพราะพ่อเป็นคนพูดจริงทำจริง กลัวจะถูกฆ่าไปด้วย ส่วนสาเหตุที่พ่อขู่จะฆ่าตนคาดว่า เพราะพ่อคิดว่าตนไม่รัก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งกลับไปหาพ่อเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา และให้เงินใช้เรื่อยมา ปกติพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อนและเก็บกด แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะตัดสินใจก่อเหตุแบบนี้ จึงอยากฝากบอกพ่อว่า มอบตัวกับตำรวจเถอะ อย่าไปก่อเหตุอีกเลย ออกหมายจับมือยิง 3 ศพ ล่าสุด ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู อนุมัติหมายจับ นายสามารถ ที่พักบ้านโจด อายุ 58 ปี ผู้ก่อเหตุแล้ว ใน 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือ ชุมชน