ดับฝัน แม่บ้าน รับมรดกร้อยล้าน
วันที่ 26 พ.ย. 2567 เวลา 16:33 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - "ป้าติ๋ม" อาจวืดได้มรดกร้อยล้าน จากแหม่มนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ที่ยิงตัวตายบนเกาะสมุย หลังตำรวจซุ่มเงียบทำคดีนาน 7 เดือน ก่อนแจ้งเอาผิดบริษัทผู้ตาย และ 2 นอมินีชาวไทย ดับฝัน แม่บ้าน ปมมรดกร้อยล้านบาท เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนสมาชิกโซเชียลบางคน ถึงขั้นวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องราวช่างเหมือนในบทนิยาย หรือบทละคร ที่เคยดูกัน คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 เมื่อนางแคทเทอร์รีน ชาวฝรั่งเศส นักธุรกิจวิลล่าให้เช่า บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเอง บนเก้าอี้ริมสระน้ำในวิลล่าหรู ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดเนื่องจากมีการรายงานก่อนเสียชีวิต ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ "ป้าติ๋ม" เป็นแม่บ้านคนสนิท โดยทรัพย์สินทั้งหมด เช่น บ้านหรือวิลลาหรู พร้อมที่ดินที่เกิดเหตุ มูลค่าราว 30 ล้านบาท, ที่ดินเปล่า 2 แปลง ที่มีพื้นที่ติดกับวิลล่า มูลค่าราว 20 ล้าน, และทรัพย์สินเครื่องประดับบางส่วน เงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง โดยรวมมูลค่าที่ป้าติ๋ม จะได้รับมรดกมากกว่าร้อยล้านบาท กระทั่งเกิดเรื่องราวดรามา โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สิน เกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ชาวต่างชาติ สามารถถือครองและโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้หรือไม่ ย้อนความในใจ ป้าติ๋ม ไม่อยากได้มรดก ซึ่งในตอนนั้น ก็มีนักข่าวไปสัมภาษณ์ "ป้าติ๋ม" ว่ารู้สึกอย่างไรกับพินัยกรรมฉบับนี้ "ป้าติ๋ม" ก็กล่าวทั้งน้ำตาว่า ไม่อยากได้มรดกดังกล่าว แต่อยากให้เขาอยู่กับป้ามากกว่า เพราะเขาเปรียบเสมือนแม่คนหนึ่งของป้าที่ดูแลป้ามาตลอด แม่บ้าน ส่อวืดมรดก ปมพิรุธบริษัทผู้ตาย คดีนี้ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่องนาน 7 เดือน จนพบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจในลักษณะนิติบุคคลที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นกรรมการ เข้าข่ายความผิดลักษณะของตัวแทนอำพราง จนล่าสุด พลตำรวจตรี เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มอบหมายให้ พลตำรวจโท ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ให้ดำเนินคดีกับ 2 บริษัทคือ 1.บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด 2.บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ในฐานะนิติบุคคล และ 3.นางแคทเทอร์รีน ข้อหาร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง, เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัตินี้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ นอกจากนี้แจ้งข้อหา 4.นายทองใส อายุ 50 ปี และ 5.นางรัชประภา อายุ 36 ปี ข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย, เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวโดย พลตำรวจโท ณัฐพงษ์ ได้มอบสำนวนการสืบสวนและพยานหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนกรณี "ป้าติ๋ม" ยังได้รับมรดกร้อยล้านเหมือนเดิมหรือไม่ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่จะมุ่งไปที่การสืบสวนเรื่องบริษัท และนอมินีคนไทยอีก 2 คน ที่ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มสอบสวน.