ลุ้นประกันตัวภรรยา-ลูก หมอบุญ 28 พ.ย.

วันที่ 26 พ.ย. 2567 เวลา 11:35 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เมื่อวานนี้ ศาลฯ ออกหมายขัง ภรรยา กับ ลูกของ "หมอบุญ หลังยื่นประกันตัววงเงิน 2 ล้านบาทไป เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ศาลไม่ยกคำร้องทันที แต่นัดไต่สวนวันที่ 28 พฤศจิกายน จึงมีลุ้นอยู่ว่า ทั้ง 2 คน จะได้รับการประกันตัว หรือไม่ ไปดูภาพเมื่อวานนี้กันอีกที นี่เป็นภาพขณะที่ นางสาวนลิน อายุ 51 ปี ลูกสาวของ นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ประคอง นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี มารดาของเธอ และภรรยาของบุญ ไปขึ้นรถตู้ของตำรวจ ก่อนจะถูกพาตัวไปขออำนาจศาลฯ ฝากขัง ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน" ตั้งแต่ช่วงเช้า โดย นางจารุวรรณ มีสีหน้าซีดเซียว และทั้ง 2 คน ก็ยังสวมเสื้อผ้าชุดเดิม จากนั้นพอไปถึงศาลฯ ก็ได้ยื่นหลักทรัพย์ 2 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวทั้งสองคน ศาลฯ พิจารณาแล้วรับคำร้องฝากขัง ส่วนเรื่องขอประกันตัว เนื่องจากมีการยื่นเอกสารประกอบคำร้องให้พิจารณาจำนวนมาก จึงนัดเบิกตัวมาไต่สวน วันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ โดยระหว่างนี้ ทั้งสองต้องอยู่ในการดูแลของ ทัณฑสถานหญิงกลางก่อน ซึ่งตอนนี้ทั้งสองจะอยู่ในช่วงของการกักตัว เพื่อดูอาการป่วยโควิด-19 ในช่วง 5 วันแรก ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ระบุว่า เรื่องนี้ หมอบุญ กระทำในนามส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป เข้าข่ายเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน แต่ยังไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ส่วนเรื่องความผิดของ โบรกเกอร์ ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที มีรายงานข่าวว่า บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ได้ส่งหนังสือแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับรายการอันควรสงสัย หลังตรวจพบมีรายการที่น่าสงสัยเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการเงินรวมมูลค่ากว่า 63 ล้านบาท พร้อมกับยืนยันว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงิน หรือความสามารถในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ แต่อย่างใด ขณะที่ตำรวจ บก.ปอศ. บอกว่าช่วงบ่ายวันนี้ "ผบ.ตร." ได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีในภาพรวม ทั้งในส่วนของผู้เสียหายที่อยู่ในการดูแลของตำรวจสอบสวนกลาง 18 ราย และอยู่ในการดูแลของตำรวจนครบาลกว่า 200 ราย ส่วนกระแสข่าวเรื่องการโอนสำนวนคดีนี้ไป DSI สอบถามกับ 1 ใน โฆษก DSI บอกว่า จริงอยู่ที่ถ้าดูจากข่าว ตัวเลขความเสียหายอาจเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษได้ แต่เนื่องจากตำรวจยังไม่ได้ติดต่อมาหารือเรื่องการโอนสำนวนคดี และ DSI ก็ยังไม่รู้เนื้อในของคดีนี้อย่างแท้จริง จึงยังบอกไม่ได้ว่าท้ายที่สุดแล้ว จะต้องโอนมาอยู่ในความดูแลของ DSI หรือไม่ หรือพูดง่าย ๆ ถ้าคดีนี้ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ก็คงไม่ได้โอนคดีมา สว. หมอเปรมศักดิ์ เพียยุระ จะเสนอกรรมาธิการการเทคโนโลยีฯ สว.นำคดีหมอบุญ ไปตรวจสอบเพิ่มเติม รวมถึงกรณีอื่น ๆ อีกทั้งการหลอกลวงเหยื่อผู้เสียหายด้วยการซื้อโฆษณาซื้อออนไลน์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ที่มีความผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์มีโทษทั้งจำและปรับและเห็นควรให้เชิญ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี และหน่วยวานที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจง เพราะมีการโฆษณาอย่างโจ่งแจ้ง รวมไปถึง บก.ปอส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, DSI, กลต., สคบ. และ กสทช. ด้วย แต่ไม่ใช่เฉพาะคดีของหมอบุญเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายคดี ที่มีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาร่วมกัน เช่นเดียวกับ ด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ บอก หลังจากวันที่ 12 ธันวาคม จะมีผู้เข้ามาร้องทุกข์ในกรณีหมอบุญเพิ่มอีกประมาณ 500-600 คน ซึ่งมีหนึ่งในนั้นถูกฉ้อโกงไปถึง 2.5 หมื่นล้าน และทราบว่า "หมอบุญ" จะหนีไปบางประเทศซึ่งมีคอนเนคชันอยู่ หวังว่าเจ้าหน้าที่ไทยจะประสานกับตำรวจสากลจับกุมมาได้โดยเร็วที่สุด