บุกทลายเหมืองบิตคอยน์ ลักใช้ไฟฟรี เสียหายเดือนละ 2 แสนบาท
วันที่ 26 พ.ย. 2567 เวลา 09:27 น.
ตำรวจอยุธยา-การไฟฟ้า บุกทลายเหมืองบิตคอยน์ ลักใช้ไฟหลวงฟรี เสียหายเดือนละ 2 แสนบาท ยึดเครื่องขุดบิตคอยน์ 31 เครื่อง พบวัยรุ่นมาเช่าตึกติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม วันนี้ (26 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายพิสิษฐ์ เจริญนพศักดิ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าสาขาอยุธยา บุกตรวจสอบอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพ หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ประตูเหล็กม้วนด้านล่างปิดล็อก จึงทำการตัดเข้าไปตรวจสอบ พบที่ชั้นล่างมีการเจาะพื้นร้อยสายไฟทะลุพื้นขึ้นไปยังชั้น 3 เมื่อขึ้นไปตรวจสอบด้านบนพบอุปกรณ์ เครื่องขุดบิตคอยน์ 31 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง พัดลมขนาดใหญ่ 1 ตัว และอุปกรณ์สายไฟ จึงได้ทำการตรวจยึดทั้งหมด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า คดีเป็นการกระทำของผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้เป็นอย่างดี โดยจะได้รับเงินส่วนแบ่งจากเงินดิจิตอล แต่ที่พลาดและผิดคือการใช้ไฟฟ้าหลวงฟรี โดยลักทรัพย์ของการไฟฟ้า 2 เดือน ค่าไฟเสียหายประมาณ 4 แสนบาท ส่วนตัวเครื่องขุดบิตคอยน์จะต้องตรวจสอบการนำเข้า ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้การไฟฟ้าตรวจสอบพบความผิดปกติของสถานที่แห่งนี้ จึงแจ้งความร้องทุกข์ข้อหาลักทรัพย์ ถือว่าเป็นครั้งแรกในพื้นที่อยุธยา อยากฝากถึงผู้ที่กระทำผิด คุณได้ประโยชน์ของคุณ แต่ไม่ควรมาลักทรัพย์ของชาติ ซึ่งไม่ถูกต้อง ควรทำให้ถูกและสุจริต หลังจากนี้จะติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะพบว่าผู้กระทำผิดมาเช่าพื้นที่ และติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการใช้เครื่อง จากนั้นก็ล็อกประตูปล่อยให้เครื่องทำงาน โดยมีการดูจากข้างนอกไม่ต้องเข้ามาภายในอาคารดูด้วยตัวเอง และจ่ายค่าเช่าปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือมาลักไฟหลวงใช้ เพราะเราตรวจสอบพบเครื่องทำงานอยู่ แต่มิเตอร์ไฟไม่เดิน ด้าน นายพิสิษฐ์ เจริญนพศักดิ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า การตรวจพบความผิดปกติในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าตรวจสอบมิเตอร์ไฟ ปรากฏว่ามิเตอร์ไม่หมุน การไฟฟ้าจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบพบว่าที่สายไฟที่วิ่งเข้าไปในตึกมีกระแสไฟวิ่งเข้าไป 90 แอมป์ ทั้ง 3 เฟส เราจึงมั่นใจว่าต้องมีการละเมิดการใช้ไฟ น่าจะเป็นการขุดบิตคอยน์ จึงไปแจ้งความให้มาตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่าน่าจะมีการละเมิดการใช้ไฟ โดยใช้สารบางอย่างเจาะรูและหยอดลงไปที่ตัวมิเตอร์ไฟ ทำให้จานที่ตัวมิเตอร์ไม่หมุน ประกอบกับการตรวจสอบการใช้กระแสไฟ จึงเชื่อว่าเป็นการลักใช้ไฟฟ้าในการขุดบิตคอยน์ ซึ่งเราได้พบใช้งานอยู่ 24 ตัว มีสำรองอยู่อีก 7 ตัว รวมเป็น 31 ตัว มูลค่าความเสียหายที่ลักลอบใช้ไฟไป 2 เดือน คือเดือนละประมาณ 200,000 บาท และค่าปรับอีกประมาณ 220,000 บาท ร่วม 620,000 บาท เป็นการประเมินในเบื้องต้น อยากฝากเตือนประชาชน ถ้าพบเห็นการใช้ไฟผิดปกติ ให้แจ้งการไฟฟ้าได้ทันที หรือโทร 1129 ซึ่งความผิดคือเป็นการละเมิดลักไฟหลวงไปใช้ทำให้เกิดความเสียหาย กรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับอาคารพานิชย์ดังกล่าวมีผู้เช่าเป็นชายวัยรุ่นสามคนติดต่อมาขอเช่าเมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว และทำสัญญาโดยอ้างว่าจะนำอะไหล่แต่งรถเข้ามาเก็บในอาคารพาณิชย์ ซึ่งเจ้าของอาคารพาณิชย์ก็ไม่ได้สนใจอะไร เนื่องจากมีการจ่ายค่าเช่าตรงเวลา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเอกสารการเช่าว่าผู้เช่าเป็นใคร ตรวจสอบการเงิน เพื่อดำเนินการเร่งรัดติดตามตัวผู้กระทำความผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป