ทนายพัช ถอนตัวทนายความ แอม ไซยาไนด์
วันที่ 25 พ.ย. 2567 เวลา 16:45 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ทนายพัช ยื่นคำร้องต่อศาล ขอถอนตัวเป็นทนายความให้แอมไซยาไนด์ แจงมุมมองการสู้คดีต่างกัน ไม่โกรธถูกลูกความซัดทอด แต่ติดใจ รับตัดสินใจมากนาน และคงไม่ได้ไปเยี่ยมอีก เตรียมอุทธรณ์ในส่วนของตัวเอง ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ที่ศาลอาญา นางสาวธันย์นิชา หรือทนายพัช เดินทางมาศาลอาญา พร้อมเอกสารการยื่นขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความให้นางสรารัตน์ หรือแอม จำเลยคดีวางยาพิษฆ่าชิงทรัพย์ โดย นางสาวธันย์นิชา เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นถอนตัวจากการเป็นทนายความให้กับ นางสรารัตน์ เนื่องจากความเห็นของทนายความกับลูกความมีความเห็นไม่ตรงกัน ที่ผ่านมาตนทำหน้าที่ในศาลชั้นต้นเรียบร้อยแล้ว จึงหมดหน้าที่ในศาลชั้นต้น แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นเรื่องภายในสำนวน ตามมรรยาทของทนายความถึงแม้ทนายความจะออกจากการเป็นทนายความของลูกความแล้ว จะต้องรักษาความลับของลูกความเอาไว้ ไม่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ ทนายพัช กล่าวอีกว่า ส่วนการอุทธรณ์คดี นางสรารัตน์ต้องหาทนายความคนอื่นมาแก้ต่างในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ที่ผ่านมาตนได้ทำหน้าที่ในฐานะทนายความที่ดีและความลับของลูกความเราก็ไม่บอก ขณะนี้ตนมีหน้าที่ในการเตรียมอุทธรณ์ในส่วนของตัวเอง ต้องมาดูว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน เพื่อขอความเมตตาจากศาลสูงในชั้นอุทธรณ์ต่อไป นางสาวธันย์นิชา กล่าวอีกว่า สำหรับการถอนตัวจากการเป็นทนายความนางสรารัตน์ ตนตัดสินใจมานานแล้วและได้คัดทะเบียนราษฎร์ของนางสรารัตน์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนศาลมีคำพิพากษา ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะเป็นเช่นไร ตนก็ตัดสินใจขอถอนตัวอยู่ดี และขอถอนตัวจากทุกสำนวนคดี ส่วนตัว นางสรารัตน์ ไม่ได้ว่าอะไร และร้องขอว่าอย่าถอนเลย แต่เมื่อความเห็นไม่ตรงกันในมุมของนักกฎหมายจึงขอถอนตัวออกมา ตนอยากให้นางสรารัตน์สัมผัสกับทนายคนอื่นบ้างว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร มีมุมมองความเห็นในการสู้คดีอย่างไร ส่วนเรื่องที่ตนถูกนางสรารัตน์ซัดทอดมานั้น ไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่ใช้คำว่าติดใจมากกว่า เพราะการทำงานมันต้องตรงไปตรงมา จากนี้ นางสรารัตน์ มีสิทธิ์ที่จะเลือกทนายความคนไหนก็ได้ และทนายความก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทำหรือไม่ก็ได้ ยืนยันว่าไม่ใช่การลอยแพ เพราะได้ตัดสินใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนมีคำพิพากษาแล้ว และคิดว่า นางสรารัตน์ คงหาทนายใหม่ได้ แม้คดีจะมีความสลับซับซ้อนก็ตาม โดยหลังจากนี้คงไม่ได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำ ทั้งนี้ ยังมีเรื่องที่จะต้องติดตามก็คือ พ.ร.บ.ทรมานฯ เพราะตนเป็นผู้รับมอบอำนาจจากนางสรารัตน์ในการร้องเรียนเรื่องการจับกุม นางสรารัตน์ แล้วไม่ได้แจ้งให้กรมการปกครองและสำนักงานอัยการสูงสุดทราบ เท่ากับเป็นเรื่องการปกปิดชะตากรรม จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทรมานฯ อันเป็นความผิดต่อแผ่นดิน เป็นหน้าที่ที่ตนต้องนำข้อมูลไปเสนอ