ตรวจเอกลักษณ์ 41 ศพ ในที่พักสงฆ์
วันที่ 25 พ.ย. 2567 เวลา 11:23 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - วันนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจเอกลักษณ์ศพทั้ง 41 คพ ในที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งที่จังหวัดพิจิตร ว่า ได้มาอย่างไร แต่ทางคนที่บริจาคยืนยัน เป็นศพที่ตายโดยธรรมชาติ ตรวจเอกลักษณ์ 41 ศพ ในที่พักสงฆ์ ศพที่พบทั้ง 41 ศพ ถูกพบในที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งพื้นที่ตำบลบ้านน้อย อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร โดยถูกแยกย้ายบรรจุในโลงอย่างดี วางไว้ภายใน 15 ศาลา จำนวนศาลาละ 4-5 ศพ บริเวณป่าหลังสำนักสงฆ์ ซึ่งมีเส้นทางเดินเข้าศาลาอย่างดี ทางเจ้าที่พักสำนักสงฆ์ บอกว่า ศพทั้งหมดมีไว้เพื่อการฝึกปฏิบัติสมาธิสำหรับผู้ใหญ่ เป็นการทำให้เกิดความกลัว เพราะเมื่อเกิดความกลัวถึงขีดสุดจะทำให้เกิดสมาธิ ส่วนศพที่ได้มานอกจากจะขอจากโรงพยาบาล มูลนิธิ ยังมีลูกศิษย์นำมามอบให้ เพราะอยากให้ศพเป็นอาจารย์ใหญ่ เกิดเป็นผลบุญกุศล และช่วงสายวันนี้ ทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และสำนักพุทธศาสนา จะเข้าไปตรวจสอบเอกลักษณ์ทั้ง 41 ศพ ว่าแต่ละศพได้มาอย่างไร นอกจากนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่า แต่ละศพเสียชีวิตโดยธรรมชาติ หรือผิดธรรมชาติ และตรงกับเอกสารที่มอบให้หรือไม่ ซึ่งทางเจ้าสำนักที่พักสงฆ์ ก็รอเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบ เพราะเชื่อมั่นว่าศพทั้งหมดได้มาอย่างถูกต้อง ผู้หญิงคนนี้ ซึ่งนำศพของพี่ชายและแม่ ซึ่งตายโดยธรรมชาติ มาบริจาคให้กับที่พักสงฆ์แห่งนี้ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว โดยหวังว่าจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่ หลังจากที่ตนได้มาฝึกแล้วเห็นว่ามีอานิสงส์ และตัวเองตายก็อยากมาเป็นอาจารย์ใหญ่ เพราะได้บุญ และยังกระจ่างในจิตในใจด้วย สำหรับบ่อจระเข้ขนาดใหญ่ ที่มีจระเข้กว่า 600 ตัว อยู่ในกรงที่มีสระน้ำภายในอย่างแน่นหนา ลูกศิษ์สำนักสงฆ์ บอกว่า กรงจระเข้จะไม่เปิดให้ผู้ปฎิบัติธรรมเข้าไป โดยผู้ฝึกจิตจะอยู่ด้านหน้ากรงเท่านั้น และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องจากกรมประมง ด้านสำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร จะนำเรื่องไปปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ว่า การฝึกสมาธิด้วยศพเข้าข่ายอุตริหรือไม่ ขั้นตอนรับร่างอาจารย์ใหญ่ ข้อมูลจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่าการบริจาคร่างกาย คือการอุทิศร่างกายให้นักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษา เรียกกันว่า "อาจารย์ใหญ่" ผู้บริจาคเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติ และมีอวัยวะครบ หลังจากการเสียชีวิต ญาติจะแจ้งให้ไปรับร่างภายใน 24 ชั่วโมง หลังการศึกษา 2 ปี ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลนั้น ๆ จะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลให้ สามารถแสดงความจำนงได้ที่คณะแพทยศาสตร์ทุกแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งจะมีเกณฑ์การรับอุทิศร่างกายต่างกัน เมื่อแสดงความจำนงอุทิศร่างกายเรียบร้อยแล้ว ควรแจ้งให้ สามี ภรรยา ทายาท ญาติ หรือผู้ใกล้ชิดทราบ เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เมื่อผู้อุทิศร่างกายฯ ถึงแก่กรรม