สภาพัฒน์ ชี้ไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า

วันที่ 24 พ.ย. 2567 เวลา 20:08 น.

ข่าวภาคค่ำ - ประธานสภาพัฒน์ ชี้ ไทยกำลังเผชิญปัญหาท้าทายรอบด้าน ทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศ จากปัญหาสงครามระหว่างประเทศ จับตาหลังสหรัฐอเมริกา ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ที่อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน และสหรัฐฯ เสื่อมลง จนเป็นปัญหาใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างประเทศ มุมมองของนายศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ กล่าวไว้ในงานปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทย" ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42  โดยเห็นว่า ไทยต้องเร่งจัดการกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายจากภายนอก ที่อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารความเสี่ยง จากความมั่นคงของประเทศที่สั่นคลอน ส่วนประเทศไทย เป็นประเทศเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ จัดเป็นอันดับที่ 12 ได้ถูกขึ้นบัญชีเตรียมเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้า สูงถึง 10-20 % แล้ว นอกจากนี้ยังมีปัญหาภายในประเทศ 6 ปม ที่เสมือนแผลใหญ่เรื้อรัง รอการรักษา ได้แก่ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อในประเทศลดลง ปัญหาคุณภาพการศึกษาถดถอย ปัญหาภาคการเกษตรขาดประสิทธิภาพ ทำให้ผลผลิตต่ำ คิดเป็น 9 % ของจีดีพี ปัญหาราคาพลังงานแพงกว่าประเทศคู่แข่ง และปัญหาขาดทุนงบประมาณ สัดส่วนการจัดเก็บภาษีลดลง 15 % ของจีดีพี ประธานสภาพัฒน์ เห็นว่า ไทยยังมีจุดแข็ง ได้แก่ ความคุ้นเคย ชื่อเสียงธุรกิจและการค้า มรดกทางวัฒนธรรม และอาหาร ดังนั้น ตลาดซอฟพาวเวอร์ ยังน่าจับตาเพราะสามารถสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน และก่อนปิดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ส่งมอบสมุดปกขาว แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนภาครัฐ หวังปลุกเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน