พ่อรับศพลูกสาว เหยื่อ ปลัดอำเภอสาว เมาแล้วขับ
วันที่ 24 พ.ย. 2567 เวลา 16:04 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD - พ่อเหยื่อปลัดอำเภอสาวเมาแล้วขับ ชนเสียชีวิต 2 คน สาหัสอีก 1 คน ที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เข้ารับศพลูกสาว พ่อเศร้าแทบขาดใจ ขณะที่ปลัดอำเภอสาว ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนัก เตรียมคุมตัวฝากขังพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) อาสาสมัครพลเมืองอุ้มผาง พา นายสุเนตร อายุ 49 ปี บิดาของนางสาววรกานต์ เหยื่อปลัดเมาแล้วขับที่เสียชีวิตเป็นศพที่ 2 ไปติดต่อขอรับศพบุตรสาวที่ห้องนิติเวช โรงพยาบาลแม่สอด พ่อร้องไห้ตลอดเวลา ตัดพ้อสูญเสียลูกสาวหมดอนาคต พอสงบสติอารมณ์ได้ นายสุเนตร เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ได้ยินข่าวตกใจมาก เมื่อมีคนมาแจ้งว่าบุตรสาวและเพื่อน รวม 3 คน ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน จึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่ทันเวลา บุตรสาวและเพื่อนชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.5 ได้เสียชีวิต 2 คน ส่วนเพื่อนอีก 1 คน ก็อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน บุตรสาวเป็นนักเรียนที่ขยัน เรียนดีมาโดยตลอด มีความฝันว่าอยากจะเป็นพยาบาล อยากสวมชุดพยาบาล แต่บุตรสาวมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อยากให้ปลัดอำเภอสาวคนชนมาขอขมาศพบุตรสาว วันนี้ได้นำชุดสีขาวมาสวมใส่ศพบุตรสาว ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ส่วนการดำเนินคดี ตำรวจ สภ.อุ้มผาง ได้แจ้งข้อหากับ นางสาวพิมพ์นารา อายุ 46 ปี ปลัดอำเภอเมืองจังหวัดตาก เมาแล้วขับ และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตาก พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ต้นสังกัด คือ ปกครองจังหวัดตาก ได้มีคำสั่งด่วน แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ากระทำผิดทางวินัยหรือไม่ พร้อมทั้งมีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดตาก เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับเหตุการณ์สลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริเวณถนนสายอุ้มผาง-แม่สอด หมู่ 3 ตำบลแม่กลอง อำเภออุ้มผาง นางสาวพิมพ์นารา ปลัดอำเภอเมืองจังหวัดตาก เมาแล้วขับรถยนต์อเนกประสงค์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร เสียการควบคุมหลุดข้ามเลนชนกับรถจักรยานยนต์ที่ขี่สวนมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายเอกภพ อายุ 17 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ, นางสาววรกานต์ อายุ 17 ปี ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนอีกคนเป็นเยาวชนหญิง อายุ 16 ปี บาดเจ็บสาหัส อยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอด อาการล่าสุดยังไม่รู้สึกตัว และอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต ต้องระดมกำลังพลทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู มาบริจาคเลือด เพื่อใช้ในการผ่าตัดช่วยชีวิต และดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ต่อมามีชาวบ้านกว่า 200 คน ไปรวมตัวกันที่โรงพักติดตามคดี เพราะกลัวตำรวจจะไม่ดำเนินคดีกับปลัดอำเภอสาว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จนเกิดความชุลมุนหลายชั่วโมง แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็คลี่คลาย หลังตำรวจนำตัวปลัดสาวมาสอบสวนต่อหน้าตัวแทนชาวบ้าน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาปลัดสาวรายนี้ว่า ขับรถขณะเมาสุรา ตรวจวัดได้ 136 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมกับมีการเจรจาค่าเสียหาย โดยญาติผู้เสียชีวิตเรียกเงินค่าทำศพ ค่ารักษาพยาบาล และเยียวยารายละ 7 ล้านบาท รวมเป็น 21 ล้านบาท