ทนายอาคม เยี่ยม ทนายตั้ม ขอข้อมูลทำคดี

วันที่ 22 พ.ย. 2567 เวลา 16:32 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - "ทนายอาคม" ทนายความของภรรยาของทนายตั้ม เข้าเยี่ยม "ทนายตั้ม" เพื่อขอข้อมูลในการทำคดี โดยทนายตั้ม ยืนยันจะสู้คดีจนถึงที่สุด และปฏิเสธไม่ได้แอบติดตั้งสัญญาณจีพีเอสในรถมาดามอ้อย แต่ยอมรับว่า ในพินัยกรรมมีชื่อทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ทนายอาคม เยี่ยม ทนายตั้ม ขอข้อมูลทำคดี ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือ "เดือน" ภรรยาของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้เดินทางมาเข้าเยี่ยมทนายตั้มในฐานะเพื่อน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทนายอาคม กล่าวก่อนเข้าเยี่ยมว่า มาเยี่ยมทนายตั้มเพื่อสอบถามข้อมูลว่า นางปทิตตา มีส่วนรู้เห็นกับพฤติกรรมของทนายตั้มมากน้อยเพียงใด และอยากทราบข้อเท็จจริงเรื่องแอบติดตั้งจีพีเอสบนรถมาดามอ้อย รวมไปถึงการแก้พินัยกรรม ที่ระบุว่า ให้ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดกของมาดามอ้อยว่า เป็นอย่างไร ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับทนายตั้มนั้น นายอาคม บอกว่า พูดเรื่องนี้แล้วเจ็บอก ตนกับทนายตั้มไม่ได้ทำงานร่วมกันมานานพอสมควร แต่ที่รับทำคดีให้นางปทิตตา เพราะมีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวของตน พร้อมยืนยันว่า ไม่รับทำคดีให้กับทนายตั้ม ส่วนกรณีพี่สาวของนางปทิตตา จะโดนด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้คนรอบข้างของทนายตั้มถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องหมด ส่วนจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดมากน้อยขนาดไหน รู้เห็นในการกระทำความผิดหรือไม่เพียงใดอยู่ที่แต่ละคน ทนายตั้ม ลั่นสู้คดีจนถึงที่สุด ปัดแอบติดจีพีเอส หลังเข้าเยี่ยมทนายตั้ม ทนายอาคม บอกว่า ทนายตั้ม ยังประสงค์จะสู้คดีให้ถึงที่สุด ซึ่งอาจยังไม่รู้สำนึก คิดว่าพอมีทางสู้ แต่ตนแนะนำว่า หากสู้หลังชนฝา จะไม่มีเหตุให้ลดโทษหรือบรรเทาโทษ และในฐานะผู้มีความรู้ด้านกฎหมาย เมื่อทำผิดเสียเองโทษหนักแน่นอน การพูดคุยวันนี้ ทนายตั้ม อยากได้คำแนะนำในการต่อสู้คดีมากกว่าเรื่องเหตุบรรเทาโทษ ในฐานะรุ่นพี่ก็แค่เตือนสติว่า ทำอะไรต้องรู้ตัว มีวิชาชีพใช้ให้ถูกต้อง ส่วนกรณีติดจีพีเอสรถมาดามอ้อย ทนายตั้มยืนยันว่า จีพีเอสมากับรถยนต์ และไม่ได้ล็อกอิน เข้าไปซึ่งโทรศัพท์ของทนายตั้มก็ไม่มีแอปพลิเคชันติดตามสัญญาณจีพีเอส ส่วนกรณีพินัยกรรม ทนายตั้ม ยอมรับว่า มีชื่อตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกจริง แต่จำไม่ได้ว่า เป็นฉบับที่ 1 หรือ 2 เพราะมีการแก้ไขหลายครั้ง อีกทั้ง ทนายตั้มอ้างว่า ได้ฉีกทำลายพินัยกรรมไปแล้ว แต่ไม่ทราบฉบับไหน ขอยืนยันว่า ไม่ช่วยทำคดีทนายตั้มแน่นอน และเป็นทนายให้ภรรยาทนายตั้มเท่านั้น นอกจากนี้ ตนยังไม่ยื่นประกันตัวภรรยาทนายตั้ม รอการสอบสวนคืบหน้าไปก่อน ทนายอาคม ยันเมียไม่รู้ทนายตั้มโกงเงิน ทนายอาคม บอกว่า เมื่อวานนี้ ได้เข้าเยี่ยมนางปทิตตา โดยนางปทิตตา ทราบว่า เงินที่ทนายตั้มได้มาเป็นเงินของมาดามอ้อย แต่ไม่ทราบว่า ได้มาจากการฉ้อโกง หรือ หลอกลวงมา ส่วนเรื่องคดี 71 ล้านบาท ขอยืนยันว่า ไม่มีชื่อ ภรรยาทนายตั้ม ร่วมธุรกิจสลากหวยออนไลน์ แต่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จํากัด ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ทนายสายหยุด เยี่ยม ทนายตั้ม ถกทางสู้คดีสัปดาห์หน้า ส่วนทาง ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม แจ้งว่า วันนี้ไม่ได้เข้ามาเยี่ยม ทนายษิทรา เนื่องจากติดภารกิจ และยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องในคดี คาดว่าในวันจันทร์หรือวันอังคารหน้าจึงจะเดินทางมาเยี่ยม เพื่อหารือในแนวทางการต่อสู้คดีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พร้อมย้ำว่า ในส่วนของทนายอาคมจะรับผิดชอบดูแลคดีภรรยาของทนายตั้ม และตนยังรับหน้าที่ดูแลคดี 71 ล้านบาทของทนายตั้ม ถือว่า แบ่งหน้าที่งานรับผิดชอบคดีกันไป เพื่อไม่ให้หน้างานมันทับซ้อนกัน อัจฉริยะ แฉ 4 คนสนิทเอี่ยวเส้นเงิน ทนายตั้ม ขณะที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานมูลนิธิชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติการณ์ของทนายตั้ม ในฐานะพยานแวดล้อม โดยระบุว่า วันนี้จะนำพยานหลักฐานที่เชื่อว่า มีคนที่เกี่ยวข้องในการโยกย้ายทรัพย์สินของทนายตั้ม และรู้ว่า ทรัพย์สินของทนายตั้มกว่า 300 ล้านบาท อยู่ที่ใครบ้าง มีประมาณ 4 คน ล้วนเป็นคนสนิทของทนายตั้มคือ น้องสาวเป็นคนดูแลการเงินให้ทนายตั้ม ส่วนน้องชายอีกคนพัวพันกับเว็บพนัน และเชื่อว่าเงินส่วนหนึ่งของทนายตั้ม ก็เอาไปลงทุนกับเว็บพนันนี้ และอีก 2 คนมีหน้าที่เอาเงินไปซ่อน ซึ่งไม่ระบุว่าเป็นใคร นอกจากนี้ยังมีทหารอากาศอีก 2 นาย ยศนายพัน เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย เมื่อถามว่าอัจฉริยะจะเข้าไปเยี่ยมทนายตั้มหรือไม่ นายอัจฉริยะบอกว่า ไม่เข้าไปหรอก เพราะทนายตั้มอยู่ดีกินดี อัจฉริยะ แฉ ทนายตั้ม สร้างหลักฐานเท็จตั้งแต่ปี 61 นายอัจฉริยะ บอกว่า ทนายตั้มเคยสร้างพยานหลักฐานเท็จ ปลอมเอกสารราชการ และยืมมืออัยการ และศาลในการฟ้องร้องตนเอง จนศาลพิสูจน์ยืนยันแล้วว่า เอกสารมีการปลอมขึ้นมาจริง ๆ และยกฟ้อง โดยทนายตั้มมีพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่ปี 2561 เรื่อยมา ส่วนมากเกิดขึ้นที่ภูธรภาค 7 และมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จและฟ้องร้องตนอีกหลายคดี แต่ศาลยกฟ้องเช่นกัน ปานเทพ เปิดภาพ เล็ก คนขับรถขนเงิน ขณะที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ภาพของ "เล็ก" คนขับรถใกล้ชิดทนายตั้มที่เป็นคนขับรถขนเงิน 20 ล้านบาท ไปที่บ้านเก่าของทนายตั้มย่านพุทธมณฑลสาย 4 โดยนายปานเทพระบุว่า ได้สอบถามทีมงานพี่อ้อยสรุปว่า รูปคนด้านขวาคือ“เล็ก”เป็นอดีตลูกความที่ทนายตั้ม เคยให้การช่วยเหลือ จนรอดคุกออกมากราบเท้าทนายตั้ม หากเล็กดูข้อความนี้อยู่ ขอให้ทราบว่า หากเล็กให้ความร่วมมือกับตำรวจ รับสารภาพทั้งหมด จนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และเล็กไม่ทราบว่าเป็นเงินฉ้อโกงมา เล็กก็ยังมีโอกาสถูกกันตัวเป็นพยานได้นะครับ ทนายเดชา ลั่นประวัติใสสะอาด ไม่กังวลปม สนธิ ร้อง ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขณะนี้คดีทนายตั้ม กลายเป็นละครไปแล้ว เพราะตอนนี้มีทั้งเรื่องปลอมพินัยกรรม ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน หลอกล่อไปเขื่อนเชี่ยวหลานเพื่อลอบสังหาร ทั้งที่ไม่มีหลักฐานอะไร คนพูดก็ได้ยอดวิว ยอดไลก์ เพื่อนที่เป็นตำรวจ บอกตนว่า แหล่งข่าวที่ได้มาไม่มีมูล เป็นการสร้างคอนเทนต์ ส่วนกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไปร้องเรียนว่า ตนกระทำความผิดมรรยาททนายความนั้น ทนายเดชา บอกว่า ไม่วิตกกังวล คดีนี้เป็นเรื่องส่วนตัวแค่คน 2 คนด่ากันไปมา ไม่มีความผิดมรรยาททนายความ ส่วนที่นายสนธิ บอกว่า ช่วงเดือนธันวาคมจะมีของขวัญชิ้นใหญ่มอบให้ตนนั้น เท่าที่ทราบก็น่าจะฟ้องหมิ่นประมาท ตอนนั้น ตนคงไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว และไม่ได้หวั่นไหวอะไร คดีหมิ่นประมาทไม่มีใครเคยติดคุก ที่ผ่านมาทนายตั้มฟ้องตนเกือบ 50 คดี ตนฟ้องกลับไป 20-30 คดี แต่สุดท้ายจากศัตรูก็กลายเป็นเพื่อน ทนายเดชา ยืนยันว่า ตนประวัติใสสะอาด ไม่มีเสื่อมเสีย ไม่เคยติดคุก แต่นายสนธิเคยติดคุก ไม่เคยไปตบทรัพย์ใคร