“ทักษิณ​” ขออยู่บนดิน ไม่เอาแล้ว ขึ้นสวรรค์​ - ตกนรก​

วันที่ 22 พ.ย. 2567 เวลา 08:16 น.

“ทักษิณ​” เปิดประสบการณ์​ นักธุรกิจ​ -​ นักการเมือง​ 25 ปี​ ประกาศ​ขออยู่บนดิน​ ไม่เอาแล้ว ขึ้นสวรรค์​ - ตกนรก​ ที่โรงแรม The Ritz Carlton, One Bangkok  วานนี้  ( 21 พ.ย.)  นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี​ ร่วมงาน​ Gala Dinner and Session XVII In Conversation​ พร้อมร่วมสนทนากับ Steve Forbes, Chairman and Editor-in-Chief, Forbes Media​   ซึ่งมีภาคเอกชนยักษ์ใหญ่ของประเทศเข้าร่วมจำนวนมาก​  นายสตีฟ   ได้กล่าวแซวนายทักษิณว่า ชอบกินไก่เคเอฟซี  ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะของแขกที่ร่วมงาน​   จากนั้นนายทักษิณ​ ได้กล่าวถึงประสบการณ์​การทำงาน​ 25 ปี​ที่ผ่านมา  ว่า​มีนรกและสวรรค์ ชีวิตตนเริ่มธุรกิจมาจากศูนย์   และผ่านความยากลำบากมาอย่างมากมาย ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ   และเห็นนรกก่อนเห็นสวรรค์   ในการดำเนินธุรกิจ​ ก่อนที่จะกระโดดลงมาเล่นการเมือง   เพราะทุกครั้งที่ตนลงไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดก็เห็นคนยากจน ไปกี่ครั้งก็เป็นเหมือนเดิม​ ตนจะคิดว่านอกจากจะช่วยตัวเองและครอบครัวแล้ว​ ทำไมจึงไม่ช่วยคนที่น้อยกว่า   นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจเล่นการเมือง   ซึ่งในช่วงต้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเห็นสวรรค์ในทางการเมือง​    ส่วนนรกนั้นตามมาทีหลัง   พร้อมกับระบุว่า​ นรกสวรรค์คือชีวิตของตน​   มีขึ้นและมีลง​ และตอนนี้คิดว่าอยู่บนพื้นดินแล้ว​ ไม่เอาสวรรค์ไม่เอานรก นายทักษิณ​   ระบุถึงพรรคร่วมรัฐบาล​ ว่า รัฐบาลผสมมีพรรคร่วม    จึงต้องมีข้อตกลงร่วมกันในการทำหลายสิ่ง แต่บางเรื่องอาจจะไม่ได้เห็นรัฐบาลผสม ซึ่งโชคดี​ เพราะส่วนใหญ่คนที่อยู่ในรัฐบาลผสมด้วยกัน​ขณะนี้​    เคยทำงานร่วมกับตนตอนที่ตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมาในปี 2541 และกลายเป็นรัฐบาลในปี 2544   และคนที่เป็นตัวหลักส่วนใหญ่ก็เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของตน    ความร่วมมือ  และความสัมพันธ์​ของพรรคร่วมรัฐบาลถือว่ายังดีอยู่ และอีกหนึ่งสิ่งนายกรัฐมนตรีหน้าตาคล้ายตน​    คงรู้สึกคุ้นเคย และเคยทำงานกับตน​ แต่อาจจะเป็นเวอร์ชั่นที่ 2 ส่วนเรื่องที่ถูกตกเป็นเป้าทางการเมือง และในวันนี้ (22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านคำวินิจฉัย นายทักษิณ​  ระบุว่า​ผ่านจุดนี้​ มาบ่อยๆ  ผ่านมาหลายสิ่ง  อย่างที่บอกว่าเห็นทั้งนรกและสวรรค์​  ไม่มีอะไรที่ทำให้ตนนั้นตื่นเต้น  ตนก็รู้สึกว่า ไม่เป็นไร​ ก็แค่รอรับฟังคำตัดสิน    เพราะต้องมองไปข้างหน้า เราไม่ย้อนกลับไปในอดีต​   ไปข้างหน้าแต่ไม่ใช่   moving forward​ ​ซึ่งคำนี้ดันไปตรงกับคำว่า moving forward​ party ของพรรคก้าวไกล​  ขณะเดียวกันนายทักษิณ​ ยังกล่าวว่า​ ตนชอบเวลาไปวัดสงบจิตใจ​ไปไหว้พระ​ ไปสักการะพระพุทธรูปและกลับมานอนหลับฝันดี​ ส่วนทางที่จะไปอาจจะมีหมาเห่า​   คุณไม่ต้องรู้หรอกว่าทำไมมันถึงเห่า​ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องหมา​    ก็ไปนอนซะ​ ก็จะมีจิตใจที่สงบ​ และตอนหนึ่งนายทักษิณ​ ยังเล่าถึงการจากประเทศไทยว่า​ ในช่วง 17 ปีที่ต้องไปอยู่ต่างแดน   จำเป็นมากๆ  ที่ต้องรักษาความสงบในจิตใจ   ถ้าหากคิดลบกับตัวเอง คงอยู่มาถึงไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ และ 17 ปีที่ผ่านมาตนไปแทบทุกประเทศ   ยกเว้นแคริบเบียน    และไม่ว่าตนจะไปที่ใด​ ต้องมีธุรกิจที่จะไปทำ และการพักผ่อนเป็นเพียงแค่ส่วนเสริม​  ฉะนั้นจึงไม่ไปทะเลแคริบเบียน  เพราะการไปพักผ่อนไม่ใช่หัวใจและข้อสำคัญในชีวิตของตน   พร้อมเปรียบว่า​เกิดปีวัว​ ทำงาน​ ทำงาน   ทำงาน​ อย่างเดียว  และตอนนี้อายุ 75 แล้วบางวันยังต้องทำงาน 14 ชั่วโมงอยู่เลย  และตอนนี้มีเงินเดือนตอนนี้ 700 บาท​ คือ​ เงินค่าอุดหนุนผู้สูงอายุ