ตากข้าวเป็นเหตุ หนุ่มขี่รถ จยย. ไปไม่ถึงบ้านแฟน ชนกองข้าวเปลือกชาวนาเอามาตากเต็มเลนถนนไม่มีสัญญาณเตือน
วันที่ 22 พ.ย. 2567 เวลา 07:24 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อภิชา เตียงประโคน สว.(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกองข้าวเปลือกที่ตากไว้บนถนน สายบ้านประดาจะบก - บ้านโคกศรีละคร ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ประสานหน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลเจริญสุขร่วมตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบ นายเต้ย (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้ประสบเหตุได้รับบาดเจ็บ อยู่บ้านโคกรัก ต.โกรกแก้ว อ.โนนสุวรรณ ในสภาพมีบาดเจ็บทั้งที่บริเวณเท้า มือทั้งสองข้างและที่คาง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ สีแดงดำ ทะเบียน 2 กฌ 1355 บุรีรัมย์ ล้มคว่ำอยู่ในสภาพพังเสียหายเล็กน้อย โดยบริเวณจุดเกิดเหตุยังพบข้าวเปลือกที่ตากไว้บนถนนเต็ม 1 ช่องจราจร กระจัดกระจาย จากการตรวจสอบบนถนนที่เกิดเหตุ มีเกษตรกรนำข้าวเปลือกมาตากเพื่อไล่ความชื้น ไม่มีไฟส่องสว่างตามริมถนน ไม่มีการติดตั้งสัญญาณไฟให้ผู้ขับขี่ไปมามองเห็นชัดเจน มีเพียงอุปกรณ์ที่เจ้าของข้าวนำมาตั้งไว้ตามจุดที่ตากข้าวเท่านั้น แต่ตอนกลางคืนซึ่งค่อนข้างมืด รถที่สัญจรไปมาจะมองไม่ค่อยเห็นว่ามีข้าวเปลือกตากอยู่ อีกทั้งกลางคืนไม่ได้มีการม้วนตาข่ายที่ตากข้าวเปลือกไปไว้ริมถนนด้วย ทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ สอบถาม นายเต้ย บอกว่า ช่วงเย็นได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านจะไปหาแฟนที่บ้าน ใน อ.เฉลิมพระเกียรติ แต่พอถึงที่เกิดเหตุซึ่งค่อนข้างมืดเพราะไม่มีไฟส่องสว่างตามริมถนน และไม่มีสัญญาณไฟเตือนว่ามีกองข้าวหรือข้าวเปลือกตากอยู่บนถนนเต็ม 1 ช่องจราจร ทำให้รถพุ่งชนกองข้าวเปลือกบนถนนจนรถเสียหลักล้ม และตัวลื่นไถลไปไกลกว่า 10 เมตร จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โชคดีที่ไม่ได้ขับเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่ากองข้าวดังกล่าวเป็นของพี่ชายผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งปกติชาวนาที่นำข้าวมาตากบนถนน ก็จะมีการติดป้ายหรือสัญญาณไฟให้รถที่ผ่านไปมาเห็น แต่วันนี้ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีสัญญาณไฟ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น และรู้สึกเห็นใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานแล้ว และจะสอบสวนทั้งเจ้าของที่นำข้าวเปลือกมาตาก และผู้บาดเจ็บอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป