บุกจับ นายก อบต. เรียกรับเงินผู้รับเหมาสร้างถนน
วันที่ 21 พ.ย. 2567 เวลา 12:54 น.
ป.ป.ท. ร่วมกับ ตำรวจปปป. บุกจับนายก อบต. เรียกรับเงิน 13% จากผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ต่อรองให้ลดเหลือ 1 แสน วางแผนล่อจับหน้าที่ทำการ อบต. วันนี้ (21 พ.ย.67) เวลา 11.00 น. สำนักงาน ป.ป.ท. นำโดยนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ร่วมกับ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เข้าจับกุมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง จังหวัดระยอง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 คดีนี้ เมื่อประมาณเดือน พ.ค. 67 ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ได้เข้าไปประมูลงานโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายเขามะกอก ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในราคา 835,000 บาท ต่อมา อบต. ได้แจ้งให้ผู้เสียหายเข้าไปลงนามทำสัญญาก่อสร้างในวันที่ 28 มิ.ย.67 ซึ่งในวันดังกล่าว นายก อบต. มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย 13% จากจำนวนเงินในสัญญาจ้างที่หักภาษีแล้ว คิดเป็นเงินจำนวน 100,434 บาท ต่อมาวันที่ 21 ต.ค.67 นายก อบต. ได้โทรศัพท์มาแจ้งผู้เสียหายให้เข้ามารับเช็คค่าก่อสร้าง โดยให้นำเงินสดจำนวน 100,434 บาท มามอบให้ด้วย ผู้เสียหายเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทุจริต จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนกับสำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน จากนั้น เมื่อวันที่ 14 พ.ย.67 ผู้เสียหายได้เจรจาต่อรองกับนายก อบต. เพื่อขอลดจำนวนเงิน เหลือ 100,000 บาท และได้มีการนัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดมามอบให้แก่นายก อบต.ในวันนี้ (21 พ.ย.67) ป.ป.ท. จึงได้ประสานงานกับ บก.ปปป. รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยจับกุมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบล หากพบพยานหลักฐานหรือเงินที่ได้รับจากผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ก็จะมีการขยายผลการดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าแสดงตัวและแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายก อบต. 4 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ ทั้งนี้ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด