เตือนอย่าเชื่อมิจฉาชีพ อ้างรัฐบาลหาคนทำงานฟาร์มออสเตรเลีย แจงไม่มีนโยบายออกวีซาเกษตรให้คนไทย
วันที่ 21 พ.ย. 2567 เวลา 11:42 น.
เช็กก่อนโอเงิน รัฐบาลเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ ใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย แจงรัฐบาลยังไม่มีความร่วมมือด้านแรงงาน-ไม่มีนโยบายออกวีซาเกษตรให้คนไทย เผยสถิติปีนี้ดำเนินคดีนายหน้าเถื่อนแล้ว 452 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 44 ล้านบาท วันนี้ (21 พ.ย.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพใช้สื่อออนไลน์ทั้งเว็บไซต์ และเพจเฟซบุ๊กโฆษณาชักชวนคนไทยไปทำงานฟาร์มในออสเตรเลีย แอบอ้างว่ารัฐบาลออสเตรเลียและกระทรวงแรงงานร่วมมือจัดหาคนไทยไปทำงานในออสเตรเลีย โดยจะได้รับวีซ่าประเภททำงานเป็นระยะเวลา 3-5 ปี ได้รับค่าจ้างเดือนละ 90,000 - 120,000 บาท และนายจ้างจะจ่ายค่าดำเนินการ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า พร้อมจัดหาที่พักให้ตลอดระยะทำงาน เมื่อมีผู้สนใจหลงเชื่อจะให้ส่งข้อมูลส่วนตัว ชื่อ สกุล ที่อยู่ พร้อมเอกสารสำคัญ อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ทะเบียนบ้าน อ้างว่าจะใช้ในการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและยื่นขอวีซ่าทำงาน จากนั้นจะให้โอนเงินเป็นค่ามัดจำหรือเป็นค่าดำเนินการด้านเอกสารเป็นเงินประมาณ 100,000 - 200,000 บาท และเมื่อชำระเงินครบแล้ว จะไม่มีการติดต่อหรือดำเนินการตามที่สัญญาไว้ และผู้เสียหายจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ตามกำหนดเวลา นอกจากนี้ ยังมีกรณีชักชวนให้คนไทยยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวแทนวีซ่าทำงาน โดยมีการสัญญาว่าจะช่วยยื่นขอวีซ่าทำงานภายหลังจากการเดินทางไปถึงออสเตรเลียแล้ว โดยเมื่อเดินทางถึงแล้ว ผู้ที่เสียหายจะไม่สามารถติดต่อกับตัวแทนหรือได้รับการช่วยเหลือตามที่สัญญาไว้ นายคารม ย้ำว่า รัฐบาลออสเตรเลียยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงาน และยังไม่มีนโยบายการออกวีซาเกษตรให้กับคนไทย เตือนคนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ ก่อนตัดสินใจโอนเงินให้สายนายหน้าหรือผู้แทนบริษัทรายใด ขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศจากกรมการจัดหางาน เว็บไซต์ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน doe.go.th/ipd ปัจจุบันมิจฉาชีพมีกลวิธีสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อหลอกลวงคนหางานหลายวิธี โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีการดำเนินคดีสายนายหน้าเถื่อนแล้ว 452 ราย หลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 608 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 44,223,300 บาท ซึ่งประเทศที่พบคนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานมากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา และไอซ์แลนด์ ตามลำดับ