เชือดซ้ำ ทนายความบอสพอล สั่งเอาผิด พัช-ฟิล์ม
วันที่ 20 พ.ย. 2567 เวลา 06:38 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - "บอสพอล" ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ประโยคนี้ยังถูกพูดถึงอยู่เรื่อย ๆ เมื่อล่าสุดก็ให้ทนายความแจ้งความเอาผิดกับ "พัช กฤษอนงค์" และ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" พร้อมให้ตรวจสอบไปถึงผู้เสียหาย 89 คน ที่ "พัช กฤษอนงค์" เคยช่วยเหลือ มีใครร้องทุกข์ซ้ำซ้อนหรือไม่ ส่วน เจ๊พัช ที่นอนในเรือนจำจะเป็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งที่ต้องจับตาวันนี้ (20 พ.ย.) กฤษฎีกาจะให้ความเห็นเรื่องเพิกถอนใบอนุญาตการทำธุรกิจขายตรงของบริษัทนี้ เชือดซ้ำ ทนายความบอสพอล สั่งเอาผิด พัช-ฟิล์ม นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ "บอสพอล" หลังได้รับหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินคดีกับ "พัช กฤษอนงค์" และ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ก็ไปแจ้งความเอาผิดทันที ในข้อหา "ร่วมกันกรรโชกทรัพย์" จากกรณีคลิปหลุดเรียกเงิน 20 ล้านบาท แลกกับการออกรายการโทรทัศน์ พร้อมยืนยัน ไม่รู้ว่าคลิปเสียงการเจรจาหลุดไปถึงสื่อมวลชนได้อย่างไร เพราะ "บอส ดิไอคอนกรุ๊ป" เพิ่งสั่งให้กู้คลิปเสียงจากระบบคลาวด์ในโทรศัพท์ของ "บอสปัน" ได้ และนอกจากคลิปเสียง 2 คลิป แล้ว ก็ยังมีอีก 1 คลิป ที่ยังไม่ถูกเปิดเผย บอสพอล ไม่เอาผิด นักการเมือง ส. ทนายวิฑูรย์ ยังบอกด้วยว่า กรณี นักการเมือง "ส." ยังยืนยันคำเดิมว่า "ดิไอคอนกรุ๊ป" ไม่ประสงค์เอาผิด เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์ ขณะที่เรื่องเส้นทางการเงินกว่า 10 ล้านบาท ก็เป็นการขยายผลของ บก.ปปป. แต่ทาง บอสพอล ก็ยังยืนยัน เป็นการโอนเงินทำบุญกันระหว่างแม่-ลูกเท่านั้น ไม่ได้มีการตบทรัพย์ บอสพอล สั่งเช็ก 89 ผู้เสียหาย เรียกร้องซ้ำจ่อดำเนินคดี นอกจากนี้ "บอสพอล" ยังสั่งให้ตรวจสอบกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 89 คน ที่ "พัช กฤษอนงค์" มาเจรจาขอให้นำเงินไปชดใช้ และทางบริษัทก็จ่ายเงินไปแล้ว 8.9 ล้านบาท หากพบคนกลุ่มนี้เข้าไปลงทะเบียนซ้ำกับที่เปิดแจ้งความที่ บก.ปคบ. ก็จะดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และแจ้งความเท็จด้วย ไอเดียกระฉูด เสนอคุมตัวบรรดาบอส ดิไอคอนกรุ๊ป นอกเรือนจำ ทนายวิฑูรย์ ยังเผยถึงการยื่นขอประกันตัวบรรดาบอส ๆ ว่า ยังไม่มีใครจะยื่นเร็ว ๆ นี้ แต่ก็มีแนวคิดจะลองเสนอเรื่องการควบคุมตัวนอกเรือนจำ ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ยกเว้น "บอสวิน" ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ศาลยกคำร้องเพราะกลัวหลบหนี พัช กฤษอนงค์ นอนคุกคืนแรกไม่เครียด คืนแรก (18 พ.ย.) ของการอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางของ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า เจ้าตัวกินข้าวได้ปกติ ซึ่งอาหารมื้อแรกที่กินไปคือ แกงเลียง ส่วนเช้าวันที่ 19 หลังนอนไป 1 คืน ก็เป็นแกงจืดวุ้นเส้น โดย "พัช กฤษอนงค์" ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ พร้อมยังย้ำว่า การคุมขัง จะมีเจ้าหน้าที่ดูแล รักษาความปลอดภัย และแยกแดนขังไม่ให้อยู่รวมกับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งเป็นคู่กรณีกัน จับตาเพิกถอนใบอนุญาต ดิไอคอนกรุ๊ป ปมคลิปเสียงหลุด "เทวดา สคบ." รัฐมนตรี จิราพร กล่าวว่า คณะกรรมการยังต้องขอยืดเวลาการสืบสวนออกไป เพราะพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และต้องรอ รัฐมนตรี ประเสริฐ เซ็นคำสั่งยืดเวลาด้วย ขณะที่การพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตการจดทะเบียนตลาดแบบตรงของบริษัทดิไอคอน คาดว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา จะให้ความเห็นในช่วงเย็นวันนี้ (20 พ.ย.) ที่จะมีการประชุมพิจารณากัน วันนี้ DSI เริ่มสอบปากคำ 11 บอสชาย ดิไอคอนกรุ๊ป วันนี้ 10.00 น. DSI จะเริ่มต้นเข้าสอบปากคำ "บอสชาย" ทั้ง 11 คน เพราะครั้งที่แล้วได้คำตอบว่าจะทำเป็นเอกสารมาชี้แจง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเอกสารใด ๆ ส่งมา ส่วนประเด็นที่จะสอบถามก็เป็นเรื่องเดิมเกี่ยวข้องกับการแจ้งข้อหา คดีแชร์ลูกโซ่ เช่น จะมีการอ้างถึงพยานหลักฐานใดหรือไม่, จะแก้ต่างธุรกิจของบริษัทอย่างไร เพื่อฟังความทั้ง 2 ด้าน ทนายสายหยุด เริ่มกรุยทางเจรจา มาดามอ้อย คดีทนายตั้ม กับ มาดามอ้อย ก็มีความเคลื่อนไหว โดย นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ ก็เข้าเยี่ยม "ทนายตั้ม" หลังครบกำหนดกักตัววันแรก เรียกว่าเป็นการเจอกันโดยลำพังแค่ 2 คน เป็นครั้งแรก พร้อมเล่าว่า ตอนที่เจอกันก็แทบไม่มีโอกาสมองหน้า เพราะ ทนายตั้ม ให้ข้อมูลและสั่งการเรื่องสู้คดีทางโทรศัพท์แบบรัว ๆ จนแทบจดไม่ทัน แต่เท่าที่สังเกตเห็นก็เห็น ทนายตั้ม ปรับตัวได้ ไม่กังวล ไม่เครียด ไม่ร้องขออะไร ไม่คิดประกันตัว ยกเว้นห่วงภรรยาเหมือนเดิม โดยเรื่องแรกที่คุยกับ ทนายตั้ม คือ เรื่องเงิน 39 ล้านบาท ตอนนี้ทราบรายละเอียดจาก ทนายตั้ม แล้ว แต่ยังไม่รับทำคดีนี้ เพราะจะขอรอดูหลักฐานจากตำรวจก่อน ซึ่งหลักฐานเท่าที่มีก็พอที่จะใช้สู้คดีได้ ส่วนคดีเงิน 71 ล้านบาท ยอมรับว่า ได้คุยกับ ทนายของ มาดามอ้อย จริง เพราะเห็นว่าเมื่อคดีไปถึงชั้นศาล ก็ต้องมีกระบวนการไกล่เกลี่ยเกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่ อาจารย์ปานเทพ ออกมาเผยว่า ทนายตั้ม มีการตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกให้ มาดามอ้อย เรื่องนี้ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยอมรับว่า ได้คุยกับ ทนายตั้ม จริง และเจ้าตัวก็ยืนยันว่า ทำลายเอกสารที่เกี่ยวข้องและถูกยกเลิกไปแล้ว ไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีก ส่วนเรื่องติด GPS ในรถของมาดามอ้อย ทนายตั้มยืนยันว่าไม่ได้ติด มาดามอ้อย เดินหน้าเอาผิดทนายตั้ม ปมถูกฉ้อโกงเงิน และปมเรื่องการติดต่อ ทนายมาดามอ้อย เคลียร์เงิน 71 ล้านนั้น ทีมข่าว 7HD ก็ถามเรื่องนี้กับ ทนายสมชาติ ยอมรับว่า ทนายสายหยุด ติดต่อมาจริง ก็เป็นการเสนอของอีกฝ่ายว่าจะให้ ทนายตั้ม ทยอยคืนเงิน ซึ่งตนนำเรื่องนี้แจ้ง มาดามอ้อย แล้ว แต่ก็ให้คำตอบว่า ให้ดำเนินการตามกฎหมาย จะไม่พูดคุยหรือเจรจาไกล่เกลี่ยอะไรอีก