จับตาศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดี แอม ไซยาไนด์

วันที่ 20 พ.ย. 2567 เวลา 08:07 น.

9 โมงเช้าวันนี้ ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา แอม ไซยาไนด์ วางยาฆ่าเพื่อน อดีตสามีนายตำรวจ-ทนายพัช โดนข้อหาช่วยเหลือให้ไม่ต้องรับโทษหรือรับโทษให้น้อยลง วันนี้ (20 พ.ย.67) เวลา 09.00 น. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีแอมไซยาไนด์ ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิต ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง คดีวางยาพิษฆ่าผู้อื่นพร้อมเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท โดยคดีนี้มีนางสรารัตน์ หรือแอม ไซยาไนด์  อายุ 36 ปี เป็นจำเลยที่ 1 ความผิดฐานฆ่าอื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย, ส่วนอดีตสามี พ.ต.ท.วิฑูรย์ อายุ 40 ปี อดีตสามี และอดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จำเลยที่ 2 น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช อายุ 36 ปี จำเลยที่ 3 ในความผิดฐาน ช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ให้ไม่ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน คดีนี้ อัยการบรรยายพฤติการณ์ความผิดของพวกจำเลยต่อในคำฟ้องเมื่อวันที่ 18 ก.ค.66 สรุปความว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.66  แอมไซยาไนด์ จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่า น.ส.ศิริพร หรือก้อย อายุ 32 ปี โดยนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide)  ซึ่งเป็นสารพิษปลอมปนใส่ลงในอาหารหรือน้ำดื่ม ในปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัด ให้ผู้ตายดื่มหรือรับประทาน  ระหว่างที่แอมไซยาไนด์กับผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนกันเดินทางไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนที่ผู้ตายจะหมดสติ และเสียชีวิตเวลาต่อมา โดยที่แอมไซยาไนด์ไม่ได้ให้การช่วยเหลือ แต่ได้นำทรัพย์สินของผู้ตาย 9 รายการ มูลค่า154,630 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 ได้ใช้ หรือยุยงส่งเสริม จำเลยที่ 2 เพื่อมิให้เจ้าพนักงานตำรวจติดตามหาทรัพย์ของผู้ตาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือแอม ไซยาไนด์ ไม่ให้ต้องรับโทษตามกฎหมาย หรือให้ได้รับโทษน้อยลงอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย    ในชั้นพิจารณาคดี จำเลยทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี  โดยจำเลยที่ 1 ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนจำเลยที่ 2-3 ได้รับการประกันตัว