ผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีสมโภชและห่มผ้าองค์พระนอน ณ วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันที่ 19 พ.ย. 2567 เวลา 20:05 น.

เวลา 09.05 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตรีหญิง ท่านผู้หญิง อรอนงค์ ปิยนาฏวชิรพัทธ์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปยังวัดใหญ่ชัยมงคล อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอกาสนี้ วางพวงมาลัย และจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธชัยมงคล พระประธานประจำอุโบสถ แล้ววางพวงมาลัย และจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธชินราช (จำลอง) ด้านหน้าอุโบสถ จากนั้น ผู้แทนพระองค์ไปในพิธีสมโภชและห่มผ้าองค์พระนอน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรบูรณะองค์พระนอน ซึ่งให้รักษารูปแบบดั้งเดิมของสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม รวมถึงเทคนิควิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิมเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานให้ดำรงไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และเพื่อการเรียนรู้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ในปี 2567 สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการบูรณะองค์พระนอน และมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคเงินในการบูรณะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ใช้ระยะเวลา 60 วัน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ้าห่มองค์พระนอน ปักอักษรพระปรมาภิไธย วปร. เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญวัฒนา  วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อ "วัดใหญ่" สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนต้น เมื่อปี 1900 ในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นสำนักของพระสงฆ์ที่ไปบวชเรียนจากสำนักรัตนมหาเถระ ประเทศศรีลังกา ต่อมาปี 2135 เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา ที่ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี ทรงสร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดแห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเรียกว่า "พระเจดีย์ชัยมงคล" ภายหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา วัดถูกทิ้งร้างจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นระยะเวลากว่า 150 ปี กรมศิลปากร จึงประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี 2478 ต่อมาได้รับการปฏิสังขรณ์จนมีพระสงฆ์มาจำพรรษาจึงยกฐานะเป็นวัดราษฎร์ เมื่อปี 2500 โดยใช้ชื่อว่า "วัดใหญ่ชัยมงคล" มีพระครูภาวนารังสี (เปลื้อง เริงเชียร) เป็นผู้บูรณะปฏิสังขรณ์ และได้รับการดูแลจากกรมศิลปากรเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ภายในวัดมีสถาปัตยกรรม อาทิ พระเจดีย์ชัยมงคล, วิหารพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน), ศาลเจ้าพ่อสิทธิชัย และพระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปัจจุบัน มีพระครูสิริชัยมงคล เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์และสามเณร จำพรรษา 30 รูป และแม่ชี 45 คน