หาเหยื่อจากแอปหาคู่หลอกให้รักก่อนลวงลงทุนเทรดทอง

วันที่ 19 พ.ย. 2567 เวลา 11:07 น.

ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกให้รัก ชวนเหยื่อลงทุนเทรดทอง เสียหายมากกว่าห้าแสนบาท ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ค้าจ้างเปิดบัญชี 7,000 บาท วันนี้ ( 19 พ.ย.67 ) สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า ได้เล่นแอปพลิเคชันหาคู่ และไปพบคนหนึ่ง มีการพูดคุยชักชวนเทรดทอง โดยช่วงแรกได้รับเงินจริง ต่อมาจึงถูกหลอกให้โอนเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก มูลค่าความเสียหายประมาณ 507,000 บาท พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ฯ รรท. ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวน เพื่อหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ต่อมาตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนจนทราบว่า 1 ในเครือข่ายดังกล่าวคือ นางสาวชลธิชา อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ  กระทั่งวันที่ 18 พ.ย. 2567 พ.ต.ท.ชนาธิป ญาณัปปสุต สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวน ได้ร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดย,สนับสนุนบุคคลอื่นให้ฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก ของตนโดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” โดยจับกุมได้ที่ สถานีรถไฟอยุธยา ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้น นางสาวชลธิชา ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้หลอกให้โอนเงินจริง โดยได้ค่าจ้างเปิดบัญชี 7,000 บาท และได้ถูกชักชวนว่า หากเดินทางไปสแกนหน้าที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จะได้รับเงินเป็นรายครั้งที่มีการโอนเข้า โดยได้เดินทางไปสแกนหน้าล่าสุดเมื่อต้นเดือน พ.ย. จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา ก่อนที่กลุ่มมิจฉาชีพจะโอนเงินไปยังบัญชีอื่นต่อไป นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป