เงินดิจิทัล 10,000 บาท เงื่อนไขล่าสุด กลุ่มอายุ 50-60 ปีขึ้นไป ใครมีสิทธิบ้าง
วันที่ 18 พ.ย. 2567 เวลา 19:52 น.
วันนี้ (18 พ.ย. 67) โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือดิจิทัลวอลเล็ต เป็นไปตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อเนื่องมาจากยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน โดยได้ดำเนินการแจกเงิน 10,000 บาทไปแล้วเป็นเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ล่าสุดเข้าสู่ช่วงพิจารณาแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับกลุ่มคนอื่นๆ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้กับกลุ่มที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เงื่อนไขล่าสุด กลุ่มอายุ 50-60 ปีขึ้นไป - รอผลการพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกฯแพทองธาร เป็นประธาน ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ - ต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรืออายุ 60 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการพิจารณา - ต้องเป็นบุคคลที่ลงทะเบียนเงินดิจิทัลไว้กับแอปทางรัฐ - แจกเงินหมื่น รอการพิจารณาว่าเป็นเงินสด 10,000 บาท หรือเงินดิจิทัล 10,000 บาท - มีโอกาสได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในช่วงก่อนสิ้นปี 2567 กลุ่มคนทั่วไปอื่นๆ ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท แอปทางรัฐ - กลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน มีมือถือ ลงทะเบียนแอปทางรัฐ รอรัฐบาลและกระทรวงการคลัง แจ้งวันประกาศผลลงทะเบียนว่าได้รับสิทธิหรือไม่ - กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน ไม่มีมือถือ รอรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เปิดลงทะเบียนกลุ่มนี้อีกครั้งผ่านธนาคารของรัฐ หากลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท แอปทางรัฐไม่ทันทำยังไง มีสิทธิไหม? - คนที่ลงทะเบียนแอปทางรัฐไม่ทัน มีโอกาสลงทะเบียนกับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟนได้ เช็กสถานะลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท แอปทางรัฐ - ลงทะเบียนทางรัฐ อยู่ขั้นตอนที่ 3 คือ ระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ คำแนะนำคือให้กลับเข้ามาดูใหม่อีกครั้ง - ลงทะเบียนทางรัฐ อยู่ขั้นตอนที่ 4 คือ ท่านไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากไม่ตรงตามคุณสมบัติ เงื่อนไข หลักเกณฑ์ อาจมีคำแนะนำให้รีบดำเนินการแก้ไข - ลงทะเบียนทางรัฐ อยู่ขั้นตอนที่ 5 คือ ท่านได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทั้งนี้ รายละเอียดโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มลงทะเบียนแอปทางรัฐที่มีสมาร์ตโฟน หรือกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน ให้รอการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ก่อน