ลัทธิประหลาดฝึกเรียน "หูทิพย์-ตาทิพย์"

วันที่ 18 พ.ย. 2567 เวลา 16:31 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อึ้ง ! ลัทธิประหลาด สำนักสงฆ์ที่กำแพงเพชร สอนหูทิพย์-ตาทิพย์ ให้เด็กและคนที่มาปฏิบัติธรรม นำศพมาประกอบกิจกรรม ไปดูบางกิจกรรมของสำนักสงฆ์แห่งนี้ ลัทธิประหลาดฝึกเรียน "หูทิพย์-ตาทิพย์" นี่เป็นคลิปที่พระภิกษุ สอนหูทิพย์-ตาทิพย์ ปิดตาทายภาพและตัวเลขให้กับเด็กหญิง แถมให้ปิดตาปั่นจักรยาน เรียกผู้สำเร็จขั้นวิชาว่า "เจ้าแม่ตาทิพย์" โดยเรื่องราวนี้ "เพจกำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่" นำมาโพสต์ เนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่าสำนักสงฆ์แห่งนี้ มีการฝึกปฏิบัติธรรมแปลก ๆ มีการนำศพคนตายมาประกอบกิจกรรมด้วย ตรวจสอบเฟซบุ๊กของที่พักสงฆ์แห่งนี้ ยังพบว่ามีการโพสต์คลิปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยให้เด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชายใช้ผ้าปิดตา และให้ทายตัวเลขและข้อความในกระดาษที่เขียนไว้ ต่อหน้าผู้ที่มาปฎิบัติธรรมในที่พักสงฆ์ ทำให้หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องแปลกใจและเชื่อว่าเป็นการเรียน "ตาทิพย์ หูทิพย์" พร้อมทั้งท้าทายให้ทุกคนมาพิสูจน์ด้วยตนเอง โดยให้เด็กชายพูดเชิญชวนว่าเรื่องหูทิพย์ตาทิพย์มีอยู่จริง ซึ่งมีบางคลิปปิดตาเด็กผู้ชายและกดพิมพ์ข้อความตามคำบอกของพระในแท็บเล็ต ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่ปิดตานั้นจะสามารถพิมพ์ได้ตามสั่งจริง ๆ นอกจากนี้ ยังมีญาติโยมที่เข้าไปปฎิบัติธรรมและถูกฝึกเรียนให้มี "หูทิพย์-ตาทิพย์" โดยเชื่อว่าจะสามารถมองเห็นสิ่งที่ถูกบังตาได้ พร้อมกับมีบางจุดภายในสำนักสงฆ์ลักษณะเป็นเนินดินมีรูปปั้นบางอย่าง ที่ใช้สำหรับนั่งสมาธิเรียกว่า "องค์คุณใหม่" ซึ่งก็มีคนเข้ามาปฎิบัติธรรมและเชื่อว่ามีสิ่งเร้นลับจริง ๆ ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง สิบเอก ประจักรกฤษ สายทิพย์ แอดมินเพจกำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ ให้ข้อมูลว่า ที่พักสงฆ์ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรบักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมเล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากสมาชิกของเพจฯ ว่า สำนักสงฆ์แห่งนี้ นำเสนอภาพที่มีเด็กปิดตาและให้ทายตัวเลข รวมถึงการนำศพเข้ามาประกอบกิจกรรมบางอย่าง ตนมองว่าเป็นการนำเด็กมาปลูกฝังให้เชื่อในเรื่องที่ผิด ๆ โดยที่ผ่านมามีข่าวแบบนี้ให้เห็นบ่อย และพิสูจน์แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ตนไม่เชื่อเรื่องนี้ มองว่าไม่อยากให้สำนักสงฆ์มาสร้างความงมงายให้กับประชาชน และต้องพิสูจน์ว่ากำลังทำอะไรอยู่ สำนักพุทธฯ สังยุติฝึกตาทิพย์-หูทิพย์ ล่าสุด นายพิพัฒน์ บุญคุ้มอยู่ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมนายอำเภอขาณุวรลักษบุรี และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบที่พักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ปรากฏว่า ที่พักสงฆ์แห่งนี้มีพื้นที่ 95 ไร่ มีพระ 4 รูป แม่ชี 4 คน เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ 2 ประเด็น ว่า มีความผิดหรือไม่ คือ 1.ฝึกหูทิพย์ ตาทิพย์ และ 2.ฝึกกรรมฐานเกี่ยวกับศพ โดยเฉพาะการนำศพหลายศพมาฝังและทำพิธีในที่พักสงฆ์ ทางญาติได้แจ้งให้วัดได้ทราบเพื่อออกใบมรณบัตร หรือแจ้งเรื่องจัดการศพอย่างไร จะเผาหรือเก็บศพไว้ก่อน เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ รวมถึงต้องให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมาตรวจสอบการเก็บศพว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่อย่างไร ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ทางสำนักสงฆ์เปลี่ยนวิธีการสอน โดยให้สอนกับพระและแม่ชี ประชาชนที่เป็นผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ให้สอนกับเด็กและเยาวชน และให้ยุติการสอนตาทิพย์หูทิพย์ และการนำศพมาประกอบกิจกรรมเด็ดขาด รวมถึงต้องขออนุญาตสร้างสำนักสงฆ์ให้ถูกต้องตามระเบียบสำนักพุทธ หัวหน้าสำนักสงฆ์ แจงปมฝึกตาทิพย์-หูทิพย์ ด้าน พระปราโมธ หัวหน้าที่พักสงฆ์ เปิดเผยว่า คลิปที่ปรากฏเป็นของเก่า ตนไม่เคยสอนเรื่องตาทิพย์-หูทิพย์ น่าจะเป็นพระรุ่นเก่า ซึ่งตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากเพิ่งมาจำวัดอยู่ที่นี่เพียง 2-3 ปีเท่านั้น ส่วนพระที่ปรากฏอยู่ในคลิป ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่วัดแล้ว ออกพรรษาก็สึกไปแล้ว ส่วนกรณีศพผู้เสียชีวิตก็จะมีญาติโยมที่มาปฎิบัติธรรมถวายร่างให้ แล้วมีการทำหนังสือซึ่งได้รับอนุญาตจากญาติให้มาถวายร่างให้มาเป็นอาจารย์ใหญ่ 2 ปี เมื่อถึงกำหนด ญาติจะรับศพกลับไป ที่เหลืออยู่ตอนนี้จะมีแต่โครงกระดูกเฉย ๆ ซึ่งตอนนี้ทางรองเจ้าคณะอำเภอ อนุญาตให้มีแค่โครงกระดูกได้ โดยทางสำนักสงฆ์ ยืนยันไม่มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว "พระพยอม" เผยตาทิพย์เป็นวิชามาร ล่าสุด พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้ความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการเอาวิชามารมาสอนเด็ก เพราะว่าเรื่องหูทิพย์ตาทิพย์ไม่มีความหมายทางศาสนา แต่เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ สายลึกลับ พระเหล่านี้ชอบทำตัวเป็นศาสดา ควรสอนให้เด็กทำดีสัก 5 ดี คือ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่, เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์, เป็นเพื่อนที่ดี, เป็นพลเมืองดีของชาติ และเป็นศาสนิกที่ดีของศาสนา การที่บอกว่าเด็กเห็นเลขต่าง ๆ ที่ออกมาเด็กจะดับทุกข์ได้ไหม ทุกข์จะลดลงไหม เป็นเรื่องงมงายไร้สาระ พระพยอม บอกอีกว่า ให้หัดสอนเรื่องที่พระพุทธเจ้าสอนดีกว่า อย่าไปสอนเรื่องที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน เสียเวลาเปล่า เรื่องนี้ สำนักพุทธต้องเข้าไปตรวจสอบว่าวิชาที่สอนมาจากพระไตรปิฎกเล่มไหน ถ้าไม่ได้มาจากพระไตรปิฎก แล้วมาจากมโนสำนึกของเจ้าสำนัก ทางสำนักพุทธต้องไม่ปล่อยให้อวดแบบนี้ต่อไป เดี๋ยวจะมีสำนักอื่น ๆ ทำตาม