ไก่ตายปริศนา 12 ตัว ปศุสัตว์คาดฝีมือพังพอน

วันที่ 18 พ.ย. 2567 เวลา 13:54 น.

ปศุสัตว์ตรวจสอบไก่ตายปริศนาคืนเดียว 12 ตัว พบร่องรอยคล้ายพังพอน ป้ายังเชื่อฝีมือกระสือ ความคืบหน้ากรณีที่ไก่ของนายจรึม และนางแก้ว ดาทอง  สองสามีภรรยาชาวบ้านปากช่อง ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ที่เลี้ยงไว้ในเล้าใกล้กับป่าอ้อย ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน  ตายปริศนาคืนวันพระคืนเดียวถึง 12 ตัว  แต่ละตัวมีสภาพถูกกัดบริเวณลำคอคล้ายดูดกินเลือด  บางตัวถูกกัดหัวขาด  และบางตัวถูกคว้านท้องเครื่องในหายไป  ขณะที่อีก 4 ตัวหายไปยังหาไม่เจอตัว  จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยสัตว์แต่อย่างใด  ทำให้เจ้าของไก่และชาวบ้านในพื้นที่ เชื่อว่าไก่ที่ตายน่าจะถูกกระสือหรือปอบกิน  เพราะมีชาวบ้านเคยเห็นแสงลอยเหนือต้นไม้บริเวณดังกล่าว  และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไก่ตายปริศนาแบบนี้  ก่อนหน้านี้ตายไป 3 ตัว  และจะเกิดในคืนวันพระ ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.67)  นายสัตวแพทย์สุริยะ  กาวงษ์กลาง  หัวหน้าพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์  พร้อมด้วยปศุสัตว์อำเภอละหานทราย  กำนันตำบลหนองแวง  และผู้ใหญ่บ้านบ้านปากช่อง  ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเล้าไก่ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับป่า   และจากการตรวจสอบบริเวณเล้ารวมถึงดูจากภาพถ่ายซากของไก่ที่ตาย  ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็น พังพอน เพราะเป็นสัตว์กินเนื้อและพฤติกรรมก็ชอบกัดที่หัว และจะเลือกกินเฉพาะเครื่องใน  จึงสันนิษฐานว่าไก่ที่ตายน่าจะเป็นฝีมือของพังพอน  รองลงมาก็อาจจะเป็นอีเห็น สัตว์ป่านักล่าที่พฤติกรรมคล้ายคลึงกัน ส่วนที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งลี้ลับก็เป็นความเชื่อของชาวบ้าน ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หากอยากจะพิสูจน์ก็ต้องลองใช้กับดักหรือติดกล้องวงจรปิด ไม่อยากให้ชาวบ้านตื่นตระหนก  แต่หากใครที่เลี้ยงสัตว์ปีกต่าง ๆ ก็อยากให้เพิ่มความระมัดระวังหรือทำคอกให้มิดชิดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้พังพอนหรือสัตว์นักล่าต่าง ๆ เข้าไปกินสัตว์ปีกที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้  ด้านป้าวรรณ อายุ 64 ปี ชาวบ้านซึ่งมีนาติดกับนายจรึมยังเชื่อว่าไก่ที่ตายเป็นฝีมือของปอบหรือกระสือ เพราะก่อนที่ไก่จะตาย 2-3 วัน  ตนเห็นแสงไฟคล้ายกับไฟตะเกียง ลอยอยู่ระดับหน้าอก ลอยผ่านไปเรื่อย ๆ แล้วก็หายไปในป่า แล้วไก่ก็มาตายตรงกับวันพระพอดี