สุดคิดถึง! นายกฯ โผกอด-หอมแก้มลูก หลังเดินทางถึงไทย เสร็จสิ้นภารกิจประชุม APEC ที่เปรู

วันที่ 18 พ.ย. 2567 เวลา 13:04 น.

สุดคิดถึง! นายกฯ โผกอด-หอมแก้มลูก หลังเดินทางถึงไทย เสร็จสิ้นภารกิจประชุม APEC ที่เปรู พร้อมเซ็นเอกสารวาระเข้า ครม.พรุ่งนี้ ด้าน ผบ.ตร.เข้าพบ คาดถกโผบิ๊กตำรวจ ก่อนประชุม ก.ตร.20 พ.ย.นี้ (18 พ.ย.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงประเทศไทย ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 11.45 น. หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ ครั้งที่ 31  หรือ APEC ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เข้าห้องรับรองเพื่อเซ็นอนุมัติวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.67) จากนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี จากนั้น พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมารอเข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยคาดว่า เข้ามารายงานวาระพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องบัญชีรายชื่อแต่งตั้งตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติ ถึงระดับผู้บัญชาการ ยศ พล.ต.อ. ถึง พล.ต.ท. วาระประจำปี 2567 ซึ่งจะมีการประชุมในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรีใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนเดินออกจากห้องประชุม และได้โบกมือทักทาย กับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า “ขอไปหาลูกก่อน” ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเข้าพบในวันนี้ มีเรื่องวาระการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า “เดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง” จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินไปที่รถส่วนตัวยนต์ส่วนตัว ได้หยุดกระโดดทักทาย หยอกล้อกับลูกชาย และลูกสาว ที่มารอรับคุณแม่บนรถยนต์ส่วนตัว พร้อมกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ซึ่งทันทีที่ประตูรถเปิด น้องธิธาร ลูกสาว ได้กระโดดโผกอดนายกรัฐมนตรีด้วยความดีใจ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะอุ้มน้องธาษิณ ลูกชาย และหอมแก้มลูก ๆ ด้วยความคิดถึง และจากนั้น ได้อุ้มลูกมาขอบคุณทหารกองทัพอากาศที่มายืนรอส่ง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปปฎิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ ที่สาธารณะเปรู ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ถึง 18 พฤศจิกายน นับเป็นเวลา 8 วัน ที่นายกรัฐมนตรี เคยได้ระบุก่อนเดินทางว่า นับเป็นการห่างกับลูกนานที่สุด