พิธาลุยช่วยหาเสียงนายกอบจ.อุดรฯ ฟาดกลับทักษิณ

วันที่ 17 พ.ย. 2567 เวลา 15:29 น.

พิธาลุยช่วยหาเสียงนายก อบจ.อุดรฯ ฟาดกลับทักษิณ หาเสียงเหมือนเป็นฝ่ายค้าน โวเชียงใหม่ก็ชนะมาแล้ว บ้านจันทร์ส่องหล้า เขตนั้นก็ชนะมาแล้ว วันนี้ (17 พ.ย.67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี เบอร์ 1 จากพรรคประชาชน โดยนายพิธาระบุถึงอำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี เผชิญกับปัญหาหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ดังนี้ 1. การขาดแคลนโอกาสทางเศรษฐกิจ ประชาชนในอำเภอเพ็ญจำนวนมากต้องออกไปทำงานต่างประเทศ (อันดับ 2 ต่อจาก หนองหาน) เนื่องจากขาดแคลนโอกาสการทำงานในพื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อโครงสร้างครอบครัวและสังคมในระยะยาว 2. สภาพถนนชำรุด ชาวบ้านในตำบลเพ็ญ ตำบลเตาไห และตำบลโคกกลาง ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับถนนที่มีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และส่งผลกระทบต่อการเดินทางและขนส่งสินค้า 3. ปัญหาน้ำท่วม ในปี 2567 อำเภอเพ็ญเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่งผลให้ประชาชนในหลายหมู่บ้านต้องเผชิญกับความเสียหายและความยากลำบากในการดำรงชีวิต 4. มลพิษทางน้ำ เหตุการณ์บ่อบำบัดน้ำเสียของฟาร์มไก่ในพื้นที่แตก ทำให้น้ำเสียไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ส่งผลให้น้ำเน่าเสีย ปลาตาย และชาวบ้านไม่สามารถใช้น้ำในการอุปโภคบริโภคได้ นายพิธา ระบุว่า การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในอำเภอเพ็ญอย่างยั่งยืน ขอให้นายก อบจ คนต่อไป แก้ไขปัญหา ให้พี่น้องชาวเพ็ญ ช่วงค่ำวานนี้ (16 พ.ย.67) พรรคประชาชน เปิดเวทีปราศรัยเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีต่อเนื่อง ที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และช่วงเย็นที่ อ.สร้างคอม และเวทีปราศรัยใหญ่ที่หนองประจักษ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี นายพิธา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปต่างประเทศหลายแห่ง ได้เจอพี่น้องแรงงานอีสานในทุกที่ที่เดินทางไป พวกเขาต้องจากบ้านจากเมืองทั้งที่ไม่ได้เต็มใจ อยากกลับบ้าน ต้องเสี่ยงต่อสู้ ค่าแรงมากแต่ก็ต้องใช้ชีวิตอย่างเหนื่อยยาก นี่คือหนึ่งในเรื่องที่นายคณิศรมีเป้าหมายในการบริหาร อบจ.อุดรธานี ภายใน 4-8 ปี อยากให้อุดรธานีเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาสทางเศรษฐกิจ นายพิธา กล่าวว่า พรรคประชาชนสืบต่ออุดมการณ์มาจากอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล เปรียบเสมือนเป็นผ้าขาวม้า เรียบง่าย ใช้คล่อง สารพัดประโยชน์ มีความหลากหลายสวยงาม สำหรับเราการเมืองคือเรื่องของทุกคน คือเรื่องของความเป็นไปได้ ทำทุกอย่างเต็มที่ จะแพ้หรือชนะก็เป็นแบบนี้เหมือนเดิม คิดแบบนี้มีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีแพ้ เราจะแพ้เมื่อเราหยุดเดิน ตราบใดที่เราไม่หยุดเดิน เราชนะแน่นอน “วันนี้ไม่ต้องการมาสาดโคลนกัน คุณทักษิณรักอุ๊งอิ๊งอย่างไร ผมก็รักพิพิมอย่างนั้น แล้วจะไปกลัวแพ้ได้อย่างไร แต่ก็แพ้ไปเยอะแล้ว ที่ จ.อุดร เขต 1 ผมก็ชนะมา เชียงใหม่บ้านเกิดของคุณทักษิณ ผมก็ชนะมาแล้ว บ้านจันทร์ส่องหล้า เขตนั้นผมก็ชนะมา แต่ชนะได้ก็แพ้ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนจะให้ชนะหรือไม่ ขอให้พี่น้องให้เวลากับหัวหน้าเท้ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เขาเป็น AI ทางการเมือง เขาจะเปลี่ยนการเมืองไทยไปตลอดกาล ให้เวลาและให้กำลังใจกับหัวหน้าเท้ง เหมือนที่เคยให้กับทิม พิธา”   นายพิธา กล่าวอีกว่า นายทักษิณบอกประชาชนยังไม่หายจนเพราะโดนปฏิวัติยึดอำนาจไป 2 ครั้ง แต่ยังไปจับมือกับพรรคที่ทำรัฐประหาร ปากบอกรู้อยู่แล้วแต่ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง แบบนี้ไม่รู้จะบอกว่าเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงหรือเปล่า ทักษิณหาเสียงเหมือนเป็นฝ่ายค้าน เพิ่งจะมาแก้เรื่องค่าแรง เพิ่งจะมาแจกเงิน อยากจะแก้กฎหมาย นายพิธา กล่าวว่า อยากเชิญชวนทุกคนให้ลองถามตัวเองว่าพรรคใด ผู้สมัครคนใด ที่พร้อมสู้เพื่อครอบครัวของคนอุดรธานีมากกว่า ใครพร้อมสู้เพื่อโอกาสทางเศรษฐกิจของชาวอุดรธานีมากกว่า ใครเข้าใจปัญหาคนป่วยที่ไม่มีเตียง ไม่มีหมอ และความรุนแรงของโรคร้าย คณิศรไปมาครบแล้ว นี่คือความต่างของผู้สมัคร คณิศรมีประสบการณ์เคยเป็นรองนายก อบจ. เคยเป็นประธานสภาทนายความ มีประสบการณ์และจะต่อสู้ทุกวันเพื่อครอบครัวของพวกท่าน ไม่ใช่เพื่อครอบครัวของคนอื่นอย่างแน่นอน