เด็กวัย 15 ปี เมากัญชา ชักไขควงแทงอาสากู้ภัย

วันที่ 15 พ.ย. 2567 เวลา 17:28 น.

วันนี้ (15 พ.ย. 67) เวลา 15.20 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุทำร้ายอาสาสมัครกู้ภัย ภายในร้านสะดวกซื้อ ตรงข้ามปากซอยประชาอุทิศ 43 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. จึงรีบรุดจัดกำลังเร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มชาวบ้านมีทั้งวัยรุ่นและผู้สูงอายุมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และยังสังเกตพบว่ามีอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูอยู่ภายในที่เกิดเหตุอีกจำนวนหลายคน กำลังควบคุมตัว นายน้อย (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี พร้อมอาวุธเป็นไขควงด้ามยาว 1 ด้าม ซึ่งไขควงดังกล่าวได้ใช้ก่อเหตุจ้วงแทงอาสาสมัครกู้ภัยภายในร้านสะดวกซื้อดังกล่าว โดยในช่วงก่อเหตุเป็นเวลากลางวันแสก ๆ และยังก่อเหตุภายในร้านสะดวกซื้อที่มีชาวบ้านรวมทั้งนักศึกษามาจับจ่ายใช้สอยกันอยู่ด้านในเป็นจำนวนมาก สร้างความแตกตื่นและตกใจให้กับประชาชน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการลงมือก่อเหตุที่อุกอาจ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองอีกด้วย จากการสอบถาม น.ส.มนทิรา ศรีมะเดื่อ อายุ 39 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นผู้เสียหาย บอกว่า ตนเดินเข้าไปซื้อของภายในร้านสะดวกซื้อ แล้วแฟนตนลืมโทรศัพท์เอาไว้ที่รถ ก็เลยเดินออกมาเอาโทรศัพท์ ระหว่างนั้นก็ได้พบกับผู้ก่อเหตุ แต่ตอนนั้นแฟนตนก็ไม่ได้คิดอะไร จึงเดินเข้ามาภายในร้าน แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังเดินตามเข้ามาแล้วก็เสียงดังใส่ตน มีใจความว่า " มึงมามองหน้ากูทำไม " แล้วต่อมาก็เกิดการโต้เถียงกัน โดยที่ทางตนยืนยันว่าไม่ได้ด่าว่าอะไรเขาเลย และพยายามอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับทางผู้ก่อเหตุฟัง แต่เขาก็สบถคำหยาบออกมาหลายครั้ง ก่อนจะควักไขควงที่เขาเหน็บเอวเอาไว้ออกมาจ้วงแทงตน เคราะห์ดีที่ตนกับแฟนหลบทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงประมาณเที่ยงของวันนี้ ตนจึงได้เดินทางพร้อมแฟนของตนไปแจ้งความร้องทุกข์ เอาไว้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เมื่ออาสาสมัครกู้ภัยได้จอดรถอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ผู้ก่อเหตุคนเดิมกลับมาอีกพร้อมอาวุธไขควงอันเดิม มาก่อเหตุซ้ำอีก โดยควักไขควงออกมาจากเอวแทงอาสาสมัครกู้ภัยที่หน้าร้านสะดวกซื้อที่เดิมอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. แต่เคราะห์ดีที่อาสาสมัครหลบทัน ก่อนจะช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัวไปสอบสวนที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาถึงที่ สน.ราษฎร์บูรณะ โดยมีญาติติดตามมาสมทบ และจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง แต่เป็นเพราะขาดสติจากการเมากัญชา ทั้งนี้ อาสาสมัครกู้ภัยเห็นแก่ญาติของผู้ก่อเหตุ จึงไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำทันฑ์บนเอาไว้ก่อน และคาดโทษเอาไว้ว่า ถ้าก่อเหตุในทำร้ายใครอีก จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที