รวบหนุ่มวัย 26 ติดพนันออนไลน์หนัก เล่นจนเงินตัวเองหมด แอบขโมยบัตร ATM ญาติ ถอนเงินครึ่งล้าน

วันที่ 15 พ.ย. 2567 เวลา 16:13 น.

รวบหนุ่มวัย 26 ติดพนันออนไลน์หนัก เล่นจนเงินตัวเองหมด แอบขโมยบัตร ATM ญาติ ถอนเงินครึ่งล้านจนเกลี้ยงบัญชี หลังก่อเหตุหนีไปบวชเป็นพระ หวังว่าญาติจะยอมให้อภัยไม่เอาเรื่อง สุดท้ายถูกรวบ 15 พ.ย.67 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุม นายศุภชัยฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ความผิดฐาน “ลักทรัพย์,ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด” พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงต้นปี 2567 นายศุภชัยฯ ติดการพนันออนไลน์อย่างหนัก เสียเงินไปกับการพนันออนไลน์จนหมดตัว จึงไปขโมยบัตรเอทีเอ็มของญาติ เนื่องจากตนเคยนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินให้กับญาติ จึงรู้รหัสเอทีเอ็ม โดย นายศุภชัยฯ อาศัยจังหวะที่ญาติเข้านอนในช่วงกลางคืน ย่องเข้าไปขโมยบัตรเอทีเอ็มในบ้านพัก นำไปถอนเงินออกมา 470,000 บาท นำเงินทั้งหมดไปเล่นการพนัน จากนั้นเมื่อถูกญาติจับได้ว่าตนเป็นผู้ขโมยบัตรเอทีเอ็ม จึงหนีไปบวชเป็นพระ เพื่อหวังว่าญาติจะยอมให้อภัยไม่เอาเรื่องกับตน แต่ญาติกลับเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต และถูกออกออกหมายจับ ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม กำลังออกตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนว่า นายศุภชัยฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับได้เดินผ่านมาในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ บริเวณหน้าตลาดองค์พระปฐมเจดีย์ เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าวก็พบชายคนหนึ่ง มีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับ นายศุภชัยฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ขออนุญาตทำการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายศุภชัยฯ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหา  ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 889/2567 วันที่  11 พฤศจิกายน  พ.ศ.2567 กระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์,ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด” จริงโดย นายศุภชัยฯ ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลเดียวกับในหมายจับดังกล่าว และยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามปากคำเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ