ถกสนั่น! วัดดังเมืองกาญจนบุรี เก็บค่าบำรุงวัด คนละ 20 บาท
วันที่ 15 พ.ย. 2567 เวลา 14:15 น.
ถกสนั่นโซเชียล! วัดดังเมืองกาญจนบุรี ขึ้นป้ายประกาศ เรียกเก็บค่าบำรุงวัด คนละ 20 บาท ชาวบ้านวิจารณ์ไม่เหมาะสม ด้านเจ้าอาวาสปรี๊ดแตก บอกรัฐบาลโพรโมตให้คนมาเที่ยวที่วัด แต่ไม่เคยสนับสนุน ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายเยอะ พ้ออยากปิดวัด จากกรณีเฟซบุ๊ก "คนเมืองกาญจน์2 รีเทิร์น" ได้มีการแชร์รูปถ่ายป้ายข้อความ โดยระบุว่า เป็นป้ายในวัดชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีข้อความ ระบุว่า "ประกาศ เนื่องจากทางวัดมีค่าใช้จ่าย ในการดูแลทำนุบำรุงวัดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าคนดูแลรักษา ค่าทำความสะอาด ค่าแรงงาน ค่าซ่อมแซมต่อเติม แก้ไข วัตถุต่าง ๆ ภายในวัด ทางวัดถ้ำเสือ จึงขอเก็บค่าบำรุงวัด ท่านละ 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป” ซึ่งจากป้ายข้อความดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ของชาว จ.กาญจนบุรี อย่างกว้างขวาง มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งเชิงเห็นด้วยและเชิงไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วย มองว่า วัด ไม่ใช่ธุรกิจสวนสัตว์หรือสวนสนุก ที่จะต้องเก็บค่าเข้าชม การมาเรียกเก็บเงินคนละ 20 บาทเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ขณะที่บางรายก็มองว่า การเรียกเก็บค่าบำรุงวัดคนละ 20 บาท คล้ายกับการที่คนไทยเดินทางไปต่างประเทศแล้วต้องเสียค่าเหยียบแผ่นดิน ทั้งที่วัดแห่งนี้ก็อยู่ในประเทศไทยและเป็นสมบัติส่วนรวมของทุกคนยังไม่สมควรที่จะเก็บเงินเช่นนี้ รวมทั้งตั้งคำถามถึงเงินทำบุญที่ในแต่ละวันมีคนเดินทางเข้ามาทำบุญที่วัดเป็นจำนวนมากว่านำไปใช้อะไรหมด และตั้งคำถามถึงหญิงสาวรายหนึ่งที่ขับรถกระบะเข้ามาที่วัดเป็นประจำและคอยเข้ามาวุ่นวายเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในวัดว่าเป็นใคร ล่าสุด (15 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง วัดถ้ำเสือ ใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และพบว่าภายในวัดมีการติดป้ายประกาศดังกล่าวไว้ตามจุดต่าง ๆ หลายจุด มีทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เมื่อเดินเข้าไปสอบถามกับเจ้าอาวาสของวัดถ้ำเสือ ถึงเรื่องของการติดป้ายประกาศดังกล่าว โดยทางเจ้าอาวาส ได้แสดงความไม่พอใจและห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ แต่หลังจากใช้เวลาพูดคุยทำความเข้าใจอยู่ระยะหนึ่ง ทางเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ จึงได้อธิบายว่า ที่ตนติดป้ายประกาศดังกล่าว ก็เพื่อต้องการเก็บเงินค่าบำรุงวัด มาเป็นเงินสำหรับค่าใช้จ่ายภายในวัด เนื่องจากทุกวันนี้วัดมีค่าใช้จ่ายมาก ทั้งเรื่องของการซ่อมแซมรถกระเช้าไฟฟ้า พี่ใช้รับส่งนักท่องเที่ยวขึ้นไปด้านบนของวัด ใช้เงินมากกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างคนงานภายในวัดทำความสะอาด ซึ่งมีมากกว่า 30 คน หากจะหวังรอเพียงเงินทำบุญของผู้ที่มาทำบุญภายในวัดก็ไม่เพียงพอ รวมถึงยังฝากคำถามไปยังรัฐมนตรีและหน่วยงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่นำรูปภาพของวัดไปโพรโมตเป็นแหล่งท่องเที่ยวของ จ.กาญจนบุรี เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่วัดจำนวนมาก แต่กลับไม่เคยให้เงินสนับสนุน หรือเงินค่าใช้จ่ายใด ๆ กับทางวัด ทำให้ทางวัดต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก บางเดือนก็แทบจะขาดทุน รวมถึงบรรดาไกด์นำเที่ยว ที่พานักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวที่วัด เข้ามาถ่ายรูป มาเดินเที่ยว มาเข้าห้องน้ำ แต่กลับไปบอกนักท่องเที่ยวไม่ให้ทำบุญกับทางวัด เส้นทางภาครัฐควรจะเรียกเก็บเงินจากไกด์นำเที่ยวพวกนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วเอามาให้วัดเป็นค่าใช้จ่าย กลายเป็นว่าทุกวันนี้ ตนเองซึ่งเป็นเจ้าอาวาสต้องคอยดูแลทุกอย่างเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาเหยียบย่ำวัด โดยที่วัดไม่ได้อะไรเลย ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกาญจนบุรี เดินทางเข้ามาพบกับเจ้าอาวาสของวัดถ้ำเสือเพื่อพูดคุยถึงประเด็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในขณะนี้ แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม โดยทางเจ้าอาวาสยืนยันว่าคนที่ไปโพสต์โจมตีในโซเชียล ไม่ได้เป็นคนที่เข้ามาเที่ยวที่วัด อีกทั้งคนที่มาเที่ยวที่วัดทุกวันนี้ ก็แทบจะไม่เคยทำบุญกับทางวัด เพียงแต่มาเดินเที่ยวมาถ่ายรูปแล้วก็กลับไป ทางเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ ยังได้กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ตนอยากจะปิดวัดไปเลย ไม่อยากต้อนรับนักท่องเที่ยว อยากจะไปเป็นพระธรรมดา ไม่ได้อยากเป็นเจ้าอาวาส อยู่ที่วัดแห่งนี้แล้ว ด้าน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภายในวัด โดยนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองไปวัดมาทั่วประเทศก็ไม่เคยเห็นว่าวัดจะมีการเรียกเก็บค่าบำรุงวัด คนละ 20 บาท อย่างเช่นที่วัดถ้ำเสือ กำลังจะทำนี้ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม การทำบุญควรเป็นเรื่องตามจิตศรัทธาของผู้ที่มาทำบุญ ไม่ใช่มากำหนดกฎเกณฑ์เช่นนี้ แล้วการที่บอกว่าวัด ๆ หนึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะ แต่ไม่ค่อยมีคนทำบุญทำให้วัดขาดทุน มันไม่น่าจะเป็นไปได้ ขณะที่ พระครูกาญจนสุตาคม เจ้าคณะอำเภอท่าม่วง เจ้าอาวาสวัดวังขนายทายิการาม กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากลูกศิษย์นำมาให้ดูแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ตนเองซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอท่าม่วง ไม่สามารถเข้าไปกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ กับทางวัดถ้ำเสือได้ แต่หากมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยถึงเรื่องดังกล่าว ก็ควรจะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี หรือเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อให้พิจารณาดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป