รวบแอดมินเพจดังโพสต์ชักชวนวัยรุ่นแว้นป่วนเมือง
วันที่ 13 พ.ย. 2567 เวลา 14:18 น.
รวบหนุ่มทรงเอ เป็นแอดมินเพจดัง มีผู้ติดตามกว่าครึ่งหมื่น โพสต์ชักชวนแก๊งวัยรุ่น ขี่รถจักรยานยนต์ แว้นป่วนเมือง วันที่ 13 พ.ย.67 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ ตำรวจ บก.จร.จับกุม นายวิศรุต (สงวนนามสกุล) แอดมินเพจ ชื่อเพจเฟซบุ๊ก "รถบ้านโก๋" ที่โพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 ต.ค.67 เวลาประมาณ 22.30 น. ต่อเนื่องวันที่ 24 ต.ค. 67 เวลาประมาณ 01.10 น. ตำรวจจราจรงานศูนย์ควบคุมจราวิภาวดีรังสิต ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. ได้ทำการสืบสวนพบว่าจะมีการรวมกลุ่มรถจักรยานยนต์แข่งกันในทางพื้นที่ถนนวิภาวดีรังสิต มีการนัดหมายรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถ หรือรถดัดแปลง ปรับแต่ง มีสภาพไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเตรียมจะแข่งรถในทางสาธารณะ บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต จึงได้วางแผนทำการปิดล้อมตรวจค้น จับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ สามารถจับกุมรถจักรยานยนต์ ได้ 66 คัน ในจำนวนนี้มี 19 คัน 22 คน ที่มีพฤติกรรมพยายามแข่งรถในทาง ผู้ขับขี่มีทั้งเยาวชนและผู้ที่บรรลุนิติภาวะ โดยผู้กระทำความผิดนี้ถูกนำตัวส่งศาลเพื่อให้พิจารณาคดี ส่วนรถจักรยานยนต์อีกจำนวน 47 คัน เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก เช่นไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และปรับแต่งสภาพรถ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.67 ศาลได้พิพากษาคดีแล้วนั้น ต่อมาตำรวจได้ขยายผลพบว่า เพจเฟซบุ๊กชื่อ”รถบ้านโก๋” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้ออกมารวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมีผู้ติดตามเพจกว่า 5,000 คน จนพิสูจน์ทราบเจ้าของเพจดังกล่าว มีนายวิศรุต เป็นแอดมินและเจ้าของเพจ “รถบ้านโก๋” ได้นัดหมายการรวมกลุ่ม ในวันที่ 23 ต.ค.67 และนายวิศรุต ก็ได้มาในวันที่เกิดเหตุด้วย ล่าสุด วันที่ 11 พ.ย.2567 ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้เจ้าตัวมาพบพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหาว่า “จัด โฆษณา ประกาศ ชักชวนแข่งรถ และพยายามขับรถแข่งในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าพนักงานจราจร และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น” เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวส่งศาลแขวงดุสิต ศาลแขวงดุสิตจึงพิพากษาลงโทษ “กักขังจำนวน 3 เดือน พร้อมริบรถจักรยานยนต์ ของกลาง”