สภาฯ เร่งปรับปรุงห้องที่ไม่ได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

วันที่ 13 พ.ย. 2567 เวลา 13:48 น.

ประธานสภาฯ สั่งปรับปรุงพื้นที่และห้องที่ยังว่าง เตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุม เเพื่อใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ลั่นต่อไปนี้รถใครเข้าออกสภาฯ ตรวจย้อนหลังได้ 6 เดือน วันนี้ (13 พ.ย.67) นายวันมูหะนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาล รองประธานสภาฯคนที่ 1 และคณะเดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบสภาฯ รวมทั้งห้องอาหารบริเวณชั้น 1 และชั้นเครื่องยอด ชั้น 11 ของอาคารรัฐสภาด้วย นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การสำรวจพื้นที่ทั้งหมด เพื่อที่จะปรับปรุงให้ใช้การได้ดีเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพราะเรามีหลายห้องแต่ยังใช้ไม่เต็มที่จึงพยายามให้รีบปรับปรุง ทั้งเรื่องเก้าอี้ แสงเสียง โดยเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ จะได้ทยอยเปิดใช้ให้คุ้มค่า กรรมาธิการสามารถใช้จัดสัมมนา รวมทั้งประชาชน นักศึกษา ก็เข้ามาใช้บริการของสภาฯได้จำนวนมาก ในส่วนของงบประมาณที่ใช้ปรับปรุงใช้งบฯปี 68 ในบางส่วน ส่วนที่ยังไม่ได้จากงบฯ ปี 68 ก็เตรียมตั้งงบฯ ปี 69 ในส่วนของระบบความปลอดภัย ระบบไฟ และการดูแลเรื่องอุบัติเหตุ ในสภาฯพร้อมตลอด 24 ชม.แม้แต่รถที่เข้ามาในสภาฯ สามารถตรวจสอบได้ว่ารถคันไหน ทะเบียนอะไร เข้ามาเวลาไหน สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 6 เดือน ซึ่งระบบความปลอดภัยของเราถือว่าอยู่ในระบบที่ดี ส่วนระบบที่เกี่ยวกับการบำบัดนำเสีย เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมานายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตสส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปตรวจบริเวณห้องน้ำชั้น บี2 พบว่ามีน้ำเสียไหลออกมา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจากนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาฯ ในฐานะกำกับดูแลอาคารสถานที่ของอาคารรัฐสภา  แล้วว่าอยู่ในขั้นการปรับปรุงแล้ว แต่เครื่องปั๊มน้ำ เนื่องจากใช้มานานและใช้ไม่ได้ดีตลอดเวลา ก็กำลังสั่งซื้อเพื่อเปลี่ยนใหม่ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากระบบ เพราะระบบใช้ได้ แต่เครื่องดูดน้ำบางช่วงเวลาเสีย เพราะเครื่องไม่ดีแล้ว จึงต้องเปลี่ยน ส่วนรอยรั่วทั้งหลายก็กำลังจะปรับปรุง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ รวมทั้งตนและนายพิเชษฐ์ก็ดูแลอยู่ เพราะต่อไปนี้เราต้องดูแลให้ดี ในส่วนที่ชำรุด อยู่ในระหว่างการประกัน สามารถเคลมให้ปรับปรุงเปลี่ยนได้ และบางอย่างเป็นเรื่องของการชำรุดเพราะการใช้ เช่น ประตูห้องน้ำ กลอนห้องน้ำ หลอดไฟ สายไฟ ต้องปรับปรุงเปลี่ยนเอง เพราะเป็นของที่ใช้แล้วเสีย แต่ถ้าเป็นระบบต่าง ๆ อยู่ในระยะของการประกันทั้งหมด เมื่อรับมอบแล้ว 2 ปี ทั้งนี้ ได้กำชับว่าในช่วงปิดสมัยประชุมนี้เราต้องสำรวจให้หมด อันไหนที่เสียง่ายก็เปลี่ยนเอาของดีที่เสียไม่ง่ายมาใช้ เพราะสภาฯ ต้องรับบริการมาก ทั้งสมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่ อีกประมาณ 3 พันคน รวมถึงคนที่มาเยี่ยมรัฐสภาด้วย ฉะนั้น ต้องใช้ของที่คงทน ถาวรแต่ราคาจะสูงหน่อย แต่ดีกว่าที่ใช้แล้วไม่กี่วันเสีย “เมื่อรับมอบรัฐสภาแล้วก็ต้องดูในรายละเอียด และกำลังจะเร่งรัด เรื่องต่างๆเช่น กำลังทำฐานประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะทำให้เสร็จภายในปี 68 รวมทั้งพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ซึ่งมีการตั้งงบประมาณไปแล้ว แต่ของปี 68 ตกไปเนื่องจากแบบไม่เรียบร้อย จึงต้องของบฯใหม่ในปี 69”