วัยรุ่นคลองสาม เหิมเกริม ขับรถไล่ยิงคู่อริ
วันที่ 13 พ.ย. 2567 เวลา 11:02 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - วัยรุ่นคลองสาม จังหวัดปทุมธานี เหิมเกริม ขับรถไล่ยิงคู่อริ โชคดีเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่มีรถยนต์ถูกกระสุนปืนลูกหลงได้รับความเสียหาย วัยรุ่นคลองสาม เหิมเกริม ขับรถไล่ยิงคู่อริ วงจรปิดหน้าร้านเสริมสวยบันทึกภาพและเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เวลา 21.13 น. และ อีกนัดหนึ่ง รวมเป็น 3 นัด เวลา 21.14 น. ทำชาวบ้านในพื้นที่วิ่งแตกตื่น เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มชัดปืนยิงคู่อริ เหตุเกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริเวณสถานที่ออกกำลังกายในชุมชน ริมคลองสาม จังหวัดปทุมธานี หลังเกิดเหตุตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง ตกบริเวณที่เกิดเหตุ รวม 4 นัด ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์บอกเห็นกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7 คน คว้าปืนยิงคู่อริ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต แต่มีรถยนต์ชาวบ้านในพื้นที่ถูกกระสุนปืน 1 นัด ได้รับความเสียหายที่ประตูด้านขวา เจ้าของรถ บอกว่า ขณะเกิดเหตุตนเอง และแฟนสาวขึ้นรถพอดี แล้วได้ยินเสียงปืนไล่หลังมา ก่อนได้ยินเสียงรถถูกกระสุนปืน ขณะที่ นายอนุชา กลุ่มวัยรุ่นอีกฝั่งที่ถูกคู่อริใช้ปืนไล่ยิง นำภาพผู้ก่อเหตุมาให้ตำรวจและทีมข่าวดู พร้อมบอก มั่นใจว่าต้องเป็นคนกลุ่มนี้แน่ ๆ เพราะช่วงบ่าย ก่อนเกิดเหตุ ตนเองเพิ่งมีปากเสียงกันมาหมาด ๆ และบอกว่าตนไม่เคยมีปัญหากับใคร นอกจากวัยรุ่นกลุ่มนี้ วัยรุ่น จ.นนทบุรี คว้ามีด-ปืน ยกพวกรุมทำร้ายคู่อริ ส่วนคดีนี้กลุ่มเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียน ย่านนนทบุรี ถืออาวุธมีดยาว ยกพวกรุมทำร้ายกลุ่มคู่อริ แบบโจ่งครึ้ม ต่อหน้าคนทั่วไปที่มานั่งรับประทานอาหาร โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หลังเกิดเหตุผู้ปกครองเยาวชนพาลูก อายุ 14 และ 16 ปี เข้าร้อง ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี ขอให้ช่วยเหลือ เพราะลูกตนเองลงไปชกต่อยกับคู่อริ แต่ถูกทำร้ายร่างกายจนสลบ และเพื่อนฝั่งลูกตนเองก็มีมีด แต่อีกฝั่งอ้างว่ามีปืน เจ้าหน้าที่เลยเชิญผู้ปกครองและนักเรียนทั้งสองฝั่ง มาปรับความเข้าใจ คุยต่อหน้าตำรวจ สภ.บางแม่นาง พร้อมบอกปมทะเลาะวิวาทมาจากการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน โดยนักเรียนที่ถูกแกล้งเป็นคนนอกพื้นที่ เพราะไม่ยอมเข้าระบบ ที่เรียกว่า "ซูฮก" ให้กับเด็กในพื้นที่ตลาดบางคูลัด ทนเก็บความรู้สึกที่ถูกแกล้งมานานจนทนไม่ไหว จึงลุกลามไปถึงการยกพวกรุมทำร้ายนอกโรงเรียน พอผู้ปกครองพูดคุยรับทราบปัญหาก็ปรับความเข้าใจ และจบเรื่องทั้ง 2 ฝ่าย ด้าน พันตำรวจเอก ธรรศกร ก้อนทอง ผู้กำกับการ สภ.บางแม่นาง ยืนยันว่า แม้ทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาความ แต่ตำรวจก็ต้องทำตามกฎหมายเพราะนักเรียนสองฝั่ง มีทั้งมีดและปืน ตำรวจเลยต้องตรวจสอบหาที่มาว่าเป็นของใคร และมีผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ โดยหลังจากนี้ต้องออกหมายเรียกเยาวชนทั้ง 2 ฝั่ง มาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวตามหลักฐาน