แจงปม "กิตติรัตน์" นั่งเก้าอี้ ปธ.บอร์ด ธปท.
วันที่ 13 พ.ย. 2567 เวลา 06:41 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - สังคมยังเคลือบแคลง กับรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ ซึ่งมีการชี้แจงเหตุผลที่ไม่สามารถ เปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกนั่งเก้าอี้สำคัญตัวนี้ได้ เพราะกระบวนการคัดเลือกเป็นการลงคะแนนลับ นั่นเอง หลายฝ่ายยังติดตามการประกาศรายชื่อ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่า น่าจะเป็นชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับภาคการเมือง ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากทั้งอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และศิษยานุศิษย์หลวงตาพระมหาบัว รวมทั้งเครือข่ายภาคประชาชน บางคนถึงกับนิยามว่า "กิตติรัตน์ ลุยไฟ" ซึ่งเรื่องนี้ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการคัดเลือกฯ เปิดใจครั้งแรก ในหัวข้อ "เก้าอี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติสำคัญไฉน" โดยเล่าย้อนขั้นตอนการคัดเลือกประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท. พร้อมย้ำ แบงก์ชาติ มีความอิสระ ปลอดการเมืองแทรกแซง ส่วนที่ยังเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกไม่ได้ เพราะเป็นการลงคะแนนแบบลับ ย้ำตามกฎหมาย ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ มีอำนาจเพียงแค่ดำเนินนโยบาย ออกหลักเกณฑ์ แต่ไม่สามารถล้วงทุนสำรองไปเอื้อประโยชน์พรรคพวกตนเองได้ ชี้ชื่อ "กิตติรัตน์" นั่ง ปธ.บอร์ด ธปท. ให้เป็นตามเกณฑ์ ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า หากเรื่องนี้ยังเป็นเพียงรายงานข่าว อย่าเพิ่งพูดถึงว่าเป็นอย่างไร เพราะจะเป็นการสร้างประเด็นเปล่า ๆ และเรื่องนี้ก็ยังไม่มีการยื่นเรื่องเข้าพิจารณาตามกระบวนการของ ครม. ขณะที่ ขุนคลัง 2 คน ทั้ง นายพิชัย และนายจุลพันธ์ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่รู้ ไม่รู้" ยังไม่เห็นรายงานอย่างเป็นทางการว่า คณะกรรมการสรรหาเลือกใครเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ จะเป็นชื่อของ นายกิตติรัตน์ หรือไม่ นายพิชัย บอกว่า มันยังเป็นความลับอยู่ ตัวเองก็รู้เรื่องจากข่าวเหมือนกับทุกคน หลังคณะกรรมการสรรหา มีมติให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุด นายกิตตรัตน์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ทุกเสียงสนับสนุนคือกำลังใจ และทุกเสียงที่ติติง คัดค้าน คือการเตือนใจ ให้คิดดี พูดดี และปฏิบัติดี วิตกการเมืองแทรก ธปท.เงินบาทอ่อนค่า ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศ บลูมเบิร์ก รายงาน อ้างความเห็นนักวิเคราะห์ว่า ค่าเงินบาทร่วงลงกว่า 1 % แตะระดับ 34.73 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่ามากที่สุด เมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินของประเทศในเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนต่างกังวลความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้แม้จะยังไม่มีความชัดเจน ถึงรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ แต่ก็เริ่มมีการขุดคุ้ยข้อมูลของ นายกิตติรัตน์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจขาดคุณสมบัติ