สาวหอบลูกน้อยร้องสื่อ! จับได้คาหนังคาเขา สามีแอบซุกชู้ ซ้ำโดนแจ้งความ

วันที่ 12 พ.ย. 2567 เวลา 11:51 น.

สาวหอบลูกน้อยร้องสื่อ! จับได้คาหนังคาเขา เปิดประตูห้องเจอสามีนอนกกกับชู้ สุดทนจนต้องตบหน้าสามี ช้ำใจอีกระลอก สามีพาชู้ไปแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย 12 พ.ย. 67 นางเอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า คบกับสามีมา 4 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 1 ขวบ 10 เดือน เดิมทีอาศัยอยู่กับสามีที่ จ.อ่างทอง เปิดบริษัทขายคอมพิวเตอร์มือสอง ต่อมาเศรษฐกิจไม่ดี จึงเช่าบ้านอยู่คลอง 3 ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังจากย้ายมาก็ขายของไม่ค่อยดี สามีจึงไปทำงานเสริมที่ร้านอาหาร ย่านคลอง 4 ตำแหน่งบาร์โฮสต์ พอสามีทำงานได้ไม่นาน พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป แอบคุยผู้หญิงอื่น เรียกแทนตัวเองว่า "ผัว-เมีย" ตอนนั้นเริ่มทะเลาะกัน เพราะขอให้สามีเลิกทำงานร้านอาหาร แต่ไม่ยอม จากนั้น วันที่ 23 ต.ค. มีปากเสียงกัน ตนจึงพาลูกกลับบ้านที่ จ.อ่างทอง และวันที่ 6 พ.ย. แอบมาดูแฟนที่บ้านเช่า ย่านธัญบุรี ไม่พบความผิดปกติ กระทั่งวันที่ 8 พ.ย. พาลูกกลับบ้านที่ จ.อ่างทอง พอมาถึงรถยนต์พัง จึงโทรบอกสามี ลูกก็ไม่สบาย ต้องนอนค้างคืนที่บ้านที่ จ.อ่างทอง อยู่ดี ๆ มีลางสังหรณ์ จึงจ้างรถกลับไปดูที่บ้านเช่าย่านธัญบุรี พอไปถึง พบรถเบนซ์จอดอยู่หน้าบ้าน เดินเข้าบ้านไปดู สามีนอนแก้ผ้ากอดอยู่กับหญิงอื่น ซึ่งฝ่ายหญิงรู้ดีว่าฝ่ายชายมีลูกมีเมียแล้ว เคยส่งข้อความไปบอก ตนเห็นแบบนั้นจึงเข้าไปตบหน้าสามี และใช้มือทุบไปที่ร่างกาย แต่ไม่ได้แตะต้องหญิงชู้ คนขับรถที่จ้างมาเข้ามาห้าม ก่อนเก็บเสื้อผ้าแล้วพาลูกกลับบ้านที่ จ.อ่างทอง ต่อมาทราบว่า วันนั้นสามีตนพาผู้หญิงคนดังกล่าว ไปแจ้งความดำเนินคดีตนเอง ในข้อหาทำร้ายร่างกาย รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมสามีกล้าทำขนาดนี้ ขณะที่เพื่อนบ้านบอกกับตนว่า สามีพาหญิงคนนี้มาที่บ้านตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. แอบมาหากันบ่อยครั้ง เธอเล่าอีกว่า ช่วงเย็นวานนี้ ผู้หญิงคนดังกล่าว ไปรับสามีที่บ้านอีก บังเอิญขับรถสวนกันพอดี ตนจึงติดต่อไปที่ทำงานสามี ได้ข้อมูลว่า มีผู้หญิงโอนเงินมาซื้อดื่มของสามี 30 ดื่ม เป็นเงิน 6,000 บาท สามีจึงไม่ต้องเข้าที่ทำงาน เชื่อว่าน่าจะไปอยู่ด้วยกันอีก จึงอยากขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ให้ผู้ที่มีความรู้เข้ามาช่วยเหลือทางด้านคดีต่อไป                                                    ขณะที่ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า คดีแบบนี้เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้ว เรื่องที่ภรรยาทำร้ายสามี มองว่าเป็นบันดาลโทสะมากกว่า เพราะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72  ผู้ใดถูกบันดาลโทสะอันร้ายแรงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดผู้ข่มเหงโดยขนาดนั้น ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กำหนดเพียงใดก็ได้  ส่วนเรื่องผู้หญิงแอบมีชู้กับสามีเรา เราก็สามารถฟ้องศาลคดีครอบครัวเรียกค่าเสียหายได้