ยังไม่แจ้งความ เมียตามผัวไปกับกิ๊ก
วันที่ 11 พ.ย. 2567 เวลา 11:02 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - สาวเกาะกระโปรงหน้ารถ เพราะไปเจอภาพบาดตาบาดใจในร้านอาหาร แล้วถูกสามีทำร้าย มีคลิปภาพอีกมุมหนึ่งต่อว่าสามีที่นั่งอยู่ในรถเก๋งกับกิ๊กสาว ก่อนขับรถออกไป ยังไม่แจ้งความ เมียตามผัวไปกับกิ๊ก จ.พัทลุง เป็นคลิปภาพ หญิงอายุ 48 ปี นั่งอยู่กระโปรงหน้ารถ ต่อว่าสามีเธอที่นั่งอยู่ในรถกับกิ๊กสาว ก่อนที่จะขับรถออกไป โดยกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง บันทึกภาพขณะเธอกระโดดขึ้นนั่งบนฝากระโปรงรถเก๋งของสามี ท่ามกลางสายฝน ไปไกลกว่า 6 กิโลเมตร เมื่อถึงบริเวณหน้าวัดควนมะพร้าว อำเภอเมืองพัทลุง สามีของเธอจอดรถ ลงมาทำร้ายเธอจนบาดเจ็บ จากนั้นก็ขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ กู้ภัยและตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง เข้าช่วยเหลือนั่งร้องไห้อยู่ข้างถนน มีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย และมีอาการมึนเมา เธอเล่าทั้งน้ำตา ก่อนเกิดเหตุ เลื่อนเฟซบุ๊ก เห็นสามีโพสต์รูปอยู่ร้านเหล้า จึงขับรถตามมาดู เจอภาพบาดตาสามีอยู่กับหญิงอื่น จึงมีปากเสียงกัน และถูกทำร้าย ล่าสุด หญิงคนดังกล่าวอาการปลอดภัย ออกจากโรงพยาบาลพัทลุงแล้ว และจากการตรวจสอบที่โรงพัก สภ.เมืองพัทลุง ไม่พบการแจ้งความเกี่ยวกับคดีนี้แต่อย่างใด ตำรวจบอกว่า หากมีการแจ้งความ ตำรวจก็ต้องเรียกทั้ง 2 ฝ่าย มาสอบปากคำ หากเข้าข่ายการทำร้ายร่างกาย ก็จะแจ้งข้อหาตามกฎหมาย แต่ก็ทำให้อดสงสัยว่า สถานะของหญิงคนนี้ เป็นอย่างไรกับชายที่เธออ้างว่าเป็นสามีไปกับกิ๊ก ยังไม่มีความชัดเจน และยังมีรายงานว่า ชายที่เธอบอกว่าเป็นสามี เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในอำเภอหนึ่งของจังหวัดพัทลุงด้วย รอผลตรวจร่างกาย สามีทำร้ายภรรยา จ.พิษณุโลก ส่วนความคืบหน้า กรณีหญิงสาวคนหนึ่ง ถูกสามีและน้องชายสามี ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทั้งตบ ทั้งตี จนฟกช้ำตามลำตัว สุดท้ายญาติต้องแจ้งอาสากู้ภัยเข้าช่วยเหลือ นำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน วันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วนคนก่อเหตุทั้ง 2 คน ถูกจับดำเนินคดีไม่นาน ก็ถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ทางครอบครัวหญิงสาวต่างกังวลว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะผู้ก่อเหตุข่มขู่ว่าหากแจ้งตำรวจจะกลับมาทำร้ายอีก ตำรวจเปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า ในวันเกิดเหตุตำรวจได้ร่วมเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บออกมาจากบ้าน นำตัวส่งโรงพยาบาล และได้ออกใบชันสูตรบาดแผล เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัยนำมาประกอบกับการดำเนินคดี โดยในวันนั้น ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาทำประวัติเอาไว้เบื้องต้นแล้ว ระหว่างรอการแจ้งข้อกล่าวหาตามอาการบาดเจ็บ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้เสียหาย เบื้องต้น สามียอมรับว่าเป็นเรื่องของความหึงหวง เป็นคนทำร้ายร่างกายจริง