ทนายความ ทนายตั้ม สู้คดี 2 คดี เตรียมยื่นประกันตัวอีกรอบ
วันที่ 9 พ.ย. 2567 เวลา 20:08 น.
ข่าวภาคค่ำ - เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เตรียมพิจารณาย้าย ทนายตั้ม และ ภรรยา ไปแดนกักที่เหมาะสม ช่วงกลางเดือน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคู่กรณี ตามกำหนดการ ทนายตั้ม และ ภรรยา ต้องอยู่ในแดนกักโรค 5 วัน ก่อนย้ายเข้าสู่แดนปกติ วันพุธที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องพิจารณาอีกทีว่าจะให้ ทนายตั้ม อยู่แดนไหน เนื่องจากอาจมีคู่กรณีหรือผู้ต้องหาที่ ทนายตั้ม เคยว่าความ โดยเฉพาะ บอสชาย ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป กระจายอยู่ในแดนต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ส่วนอาหารมื้อเย็น (9 พ.ย.) ของ ทนายตั้ม ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีข้าวสวย และแกงกะหรี่ไก่ ส่วน ภรรยา เป็นข้าวสวย ผัดผักกวางตุ้ง และ กุนเชียงทอด ส่วนการต่อสู้คดี นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ ทนายตั้ม บอกว่า จะเน้นไปที่การยื่นขอประกันตัวภรรยาของทนายตั้มก่อน เพราะทนายตั้มเป็นห่วงภรรยามาก โดยจะยื่นประกันตัวอีกครั้งหลังผ่านระยะฝากขังไป 1 ฝาก หรือ 12 วัน เพื่อความเหมาะสม ส่วนคดีจะชี้ให้ศาลเห็นว่าทนายตั้มไม่ได้ "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ตามที่ตำรวจแจ้งข้อหา เริ่มจากคดีปมเงิน 13 ล้านบาทค่ารถหรู และเงินค่าออกแบบโรงแรมจำนวน 9 ล้านบาทก่อน หากชนะทั้ง 2 คดี จะเหลือเพียงเรื่องคดีฉ้อโกงเงิน 71 ล้านคดีเดียว ซึ่งจะไม่เข้าข่าย "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" แต่จะกลายเป็นการฉ้อโกงทั่วไป ซึ่งอัตราโทษไม่สูงและทำให้พ้นจากความผิดมูลฐานฟอกเงินไปด้วย ด้าน นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความ นางสาวจตุพร หรือ มาดามอ้อย ย้ำว่า เงิน 71 ล้านบาท ที่ให้ ทนายตั้ม เป็นเงินที่ถูกหลอกลงทุน ไม่ใช่เงินที่ให้โดยเสน่หา ส่วนคดีเงิน 39 ล้านบาท ที่ ทนายตั้ม อ้างว่า ถูกสแกมเมอร์หลอก ตำรวจจะเรียก นุ และ สา 2 คนสนิททนายตั้ม เข้าให้ปากคำหรือไม่ ยังไม่ทราบ พร้อมยืนยัน มาดามอ้อย อยู่สู้คดีที่ประเทศไทยโดยไม่ยอมความแน่นอน พันตำรวจเอก ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ ยอมรับว่า รู้สึกเครียด และอึดอัดใจ หลังถูกผู้บัญการตำรวจนครบาล สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันตนเองไม่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้อง และรู้จักมา 5 ปี ตั้งแต่ยังเป็นทนายประชาชนฯ โดยก่อนเกิดเรื่อง ทนายตั้ม ประสานว่าจะมีคนมาแจ้งความ ส่วนตัวมองว่าประชาชนลงบันทึกประจำวันเป็นเรื่องปกติ และคดีที่มาแจ้ง อีกฝ่ายก็ไม่มีตัวตน เพราะโดนสแกมเมอร์หลอก ยอมรับก็สงสัยอยู่ แต่ก็เห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร เลยให้ลงบันทึกประจำวันไป และตนเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเอาใบแจ้งความไปทำอะไร คดีนี้นอกจาก ผู้เสียหายและ "ทนายตั้ม" ยังมีผู้ที่นำหลักฐานใหม่ในคดี "มาดามอ้อย" ออกมาเปิดเผยต่อเนื่อง ถึงแม้ ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู จะมั่นใจสู้คดีได้ แต่หลังจากนี้คดีของมาดามอ้อย ผ่านพ้นไป อาจต้องเผชิญงานหนัก เพราะมีผู้ที่ขุดหลักฐาน และ พฤติกรรมเก่า ๆ "ทนายตั้ม" ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้องตามกันต่อว่าตำรวจจะออกหมายจับคนใกล้ "ทนายตั้ม" เมื่อไร