ปู่ พ่อ ลูกชาย ลูกสะใภ้ ช่วยกันตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้า ทำกันแบบอุตสาหกรรมครอบครัว

วันที่ 9 พ.ย. 2567 เวลา 10:29 น.

ปู่ พ่อ ลูกชาย ลูกสะใภ้ ช่วยกันตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้า ทำกันแบบอุตสาหกรรมครอบครัว ลูกชายศึกษาวิธีถอดยกหม้อแปลงผ่าน Youtube ส่วนคนที่เหลือแบ่งหน้าที่กันคอยช่วยเหลือระหว่างกำลังขโมย พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ได้จับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งกำลังก่อเหตุลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้า บริเวณถนนสายตันหยงโป ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล โดยภายหลังจากการจับกุม นายเอฯ ให้การรับว่า ได้ร่วมกับพวกอีก 3 คน ซึ่งหลบหนีไปได้  คือ นายศักดิ์สิทธิ์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ซึ่งเป็นบิดาของนายเอฯ, นายสมจิตรฯ (ผู้ต้องหาที่ 2)  ซึ่งเป็นปู่ของนายเอฯ และ น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายเอฯ โดยทั้ง 4 คนจะใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ขี่ตระเวนไปยังบริเวณถนนบ้านตันหยงโป ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล เมื่อพบเสาไฟฟ้าซึ่งมีหม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้งอยู่ นายเอฯ จะนำอุปกรณ์ที่เตรียมมาขึ้นไปถอดหม้อแปลงไฟฟ้า จากนั้น นายศักดิ์สิทธิ์ฯ จะให้การช่วยเหลือและรอรับหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่บริเวณด้านล่าง โดยมีนายสมจิตรฯ และน.ส.น้ำฯ คอยดูต้นทางให้ ซึ่งหลังจากถอดหม้อแปลงไฟฟ้ามาได้แล้วจะนำกลับมาถอดแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์และนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยในแต่ละครั้งจะขายได้ราคาประมาณ 8,000-10,000 บาท ต่อลูก/ต่อครั้ง ซึ่งหลังจากที่ได้เงินมาแล้วก็จะนำมาแบ่งกัเพื่อใช้จ่ายภายในครอบครัว นายเอฯ รับว่าก่อเหตุลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้ามาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง ได้รับเงินจากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าประมาณครั้งละ 40,000 บาท โดยเจ้าตัวรับว่าศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหม้อแปลงไฟฟ้าผ่านทาง Youtube และดูวิธีการขึ้นไปถอดเปลี่ยนแปลง และร่วมกันสร้างอุปกรณ์ที่ใช้การลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าวเอง หลังจากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาอีก 3 รายที่ยังคงหลบหนีอยู่  ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า นายศักดิ์สิทธิ์ฯ และนายสมจิตรฯ  กำลังเดินทางหลบหนีโดยใช้รถยนต์เข้ากรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี จึงได้วางกำลังทำการสกัดจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ถนนเพชรเกษม (ขาเข้า กทม.) กม.182+200 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนำส่ง สภ.เมืองสตูล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป