ครูปรีชา หิ้วข้าวผัด-กาแฟเยี่ยม ทนายตั้ม ยันไม่ได้เยาะเย้ย

วันที่ 9 พ.ย. 2567 เวลา 05:08 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เมื่อวาน ก่อนที่ ทนายตั้ม-ภรรยา จะถูกตำรวจนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ครูปรีชา โจทก์เก่า ได้นำข้าวผัดและกาแฟไปเยี่ยม คงไม่มีใครไม่รู้จัก นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา โจทก์เก่า คดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ที่แวะนำข้าวผัด และ กาแฟเอสเปรซโซ เข้าเยี่ยม "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่กองบังคับการปราบปราม ยืนยันว่า ไม่ได้มาเยาะเย้ย แต่เป็นความบังเอิญ เพราะตัว "ครูปรีชา" มาตามนัดหมายของพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ในคดีร้องขอให้ตรวจสอบ ทนายตั้ม ซื้อสำนวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท เมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ ทนายตั้ม และภรรยา ถูกนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ระหว่างที่ถูกคุมตัวขึ้นรถ ทนายตั้ม ขอสลับที่กับตำรวจเพื่อไปนั่งข้างภรรยา ก่อนจะโน้มศีรษะภรรยามาจูบที่หน้าผาก เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ทนายตั้ม ยื่นขอประกันตัวเฉพาะภรรยา โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท และขอติดกำไลอีเอ็ม แต่ศาลพิจารณายกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวตามความเห็นของพนักงานสอบสวน เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ไม่ชดใช้ค่าเสียหาย และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้ง 2 คน จึงถูกคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกัน ตำรวจสอบสวนกลางอีกชุด นำหมายศาลอาญาฯ เข้าตรวจค้น สำนักงานกฎหมาย "ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม" ถนนสาธรใต้ หาหลักฐานเพิ่มเติม ใช้เวลาตรวจค้นนานกว่า 3 ชั่วโมง และนำทรัพย์สินที่ตรวจยึดออกทางด้านหลังเพื่อหลบสื่อฯ พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ผลการตรวจค้นบ้านพัก 2 จุด เมื่อวาน ได้หลักฐานสำคัญสามารถใช้พิสูจน์ความผิดได้ นอกจากนี้ ยังอายัดบัญชีของ ทนายตั้ม ที่เปิดรับเงินจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหลักฐานโดยตรงขณะนี้ ยืนยันได้ว่า ยังไม่ออกหมายจับผู้ต้องหาคนอื่นเพิ่มเติมในช่วงนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวน สำหรับเมนูอาหารมื้อเย็นเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และผัดพริกแกงผัด ส่วนวันนี้ (9 พ.ย.) ฝั่งผู้ชายเป็นข้าวสวย แกงจืดวุ้นเส้น และไข่เจียว ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวต้ม ผัดไชโป๊ใส่ไข่ แน่นอนว่า คดีทนายตั้ม มีทั้งเพื่อนรัก เพื่อนไม่รัก มีทั้งสะใจและเห็นใจ เราจึงขอนำแนวคิดทางธรรมจาก พระพยอม กลฺยาโณ หรือ พระราชธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว มาช่วยดึงสติ โดยแนะให้ปล่อยวาง อย่าซ้ำเติม และรอให้กฎหมายจัดการดีกว่า