พี่สาวแรงงานเหยื่อสงคราม วอนรัฐช่วยติดตามค่าจ้างค้างจ่ายจากอิสราเอล
วันที่ 8 พ.ย. 2567 เวลา 16:29 น.
พี่สาวแรงงานเหยื่อสงครามอิสราเอล วอนรัฐเร่งติดตามค่าจ้างค้างจ่าย-เงินที่น้องฝากไว้ที่อิสราเอล เผยครอบครัวยังแบกภาระอีกกว่า 6 แสน (8 พ.ย.67) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลลำดวน ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ต่างช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อเตรียมรับร่างนายประหยัด อายุ 42 ปี หนึ่งในแรงงานไทยที่โดนระเบิดจากเหตุสู้รบ ทางตอนเหนือของอิสราเอล เสียชีวิตพร้อมกับแรงงานไทยและนายจ้างอิสราเอลรวม 4 ศพ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.67 ที่ผ่านมา โดยร่างของนายประหยัดจะถูกเคลื่อนออกจากสนามบินสุวรรณเวลาประมาณ 14.00 น. และคาดว่าจะถึงบ้านเวลาประมาณ 21.00 น. โดยจะผู้แทนจากทางจังหวัด หน่วยงานในสังกัดกระทรวง ทางอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ชาวบ้าน และครอบครัวร่วมรอรับร่างด้วย ครอบครัวมีกำหนดจะตั้งสวดอภิธรรมศพ 2 คืน คือ วันที่ 9 และ 10 พ.ย.67 จากนั้นจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 11 พ.ย.67 นางสุลาภรณ์ พี่สาวนายประหยัด บอกว่า นายประหยัดน้องชาย เป็นเสาหลักของครอบครัว ดูแลพ่อแม่ที่ชรา ภรรยา และลูกอีก 3 คน แต่หลังจากสูญเสียน้องชายไป ครอบครัวก็ยังไม่รู้จะวางแผนดำเนินชีวิตต่ออย่างไร สิ่งที่ครอบครัวกังวลและต้องแบกรับภาระคือหนี้สินงวดรถยนต์ที่ยังค้างกว่า 300,000 บาท หนี้นอกระบบหนี้ ธกส.ที่กู้ยืมมาเป็นค่าเดินทางไปอิสราเอล และใช้จ่ายในครอบครัวอีกกว่า 300,000 บาท รวมกว่า 600,000 บาท จึงอยากให้ทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามเงินสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ครอบครัวควรจะได้รับ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวด้วย เพราะแม้แต่เงินจัดงานศพครอบครัวยังต้องไปกู้เงินกองทุนหมู่บ้านมา 30,000 บาท พี่สาวยังบอกอีกว่า เหตุผลที่น้องชายตัดสินใจไปทำงานอิสราเอลแม้จะเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย เพราะฐานะครอบครัว ประกอบกับค่าแรงในอิสราเอลที่ค่อนข้างสูงกว่าหลายประเทศ อยากจะมีรายได้มาดูแลครอบครัว น้องชายฝันอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองด้วย แต่หลังจากเสียชีวิตฝันของน้องก็ต้องหยุดลง หลังจากนี้คนในครอบครัวก็ต้องประคับประคองดูแลกันเอง จึงอยากให้หน่วยงานช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนด้วย