แม่บ้านทำงาน 10 ปี ขโมยทองไปกว่า 700 บาท จ.ขอนแก่น
วันที่ 7 พ.ย. 2567 เวลา 16:06 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่บ้านร้านทอง ขโมยทอง 700 บาท ตั้งแต่ปี 64 มูลค่ากว่า 20 ล้าน อ้างดื้อ ๆ หล่นใส่ผ้ากันเปื้อน วงจรปิดจับภาพชัด เจ้าของร้านจับได้ถึงชั้นศาลยังปฏิเสธ แม่บ้านร้านทอง ทำงาน 10 ปี ก่อเหตุขโมยทองตั้งแต่ปี 2564 จนถูกจับได้ปีนี้ ได้ทองไปกว่า 700 บาท มูลค่า 20 ล้านบาท ก่อนถูกเจ้าของร้านจับได้ ถึงชั้นศาลยังคงให้การปฏิเสธ แม้ว่าทางร้านจะมีหลักฐานก็ตาม วงจรปิดของร้านทองแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จับภาพแม่บ้านของร้านทอง กำลังยืนจัดเรียงทองที่ตู้ทองหน้าร้าน จังหวะที่คนในร้านเผลอ แม่บ้านแอบเอาทอง 1 เส้น ไปแขวนไว้ที่ลิ้นชัก หันหน้าไปคุยกับลูกค้า แล้วเอื้อมหยิบทองจากด้านหลัง มายัดใส่กระเป๋ากางเกง เหตุเกิดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นอีก 2 อาทิตย์ แม่บ้านคนนี้ก็มาจัดเรียงทอง แล้วแอบหยิบทอง 1 เส้น ใส่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน แค่นั้นไม่พอ แม่บ้านยังอาศัยช่วงที่เจ้าของร้านให้เฝ้าหน้าร้านลำพัง หยิบสร้อยคอทองคำใส่มือ แล้วใส่ในกระเป๋ากางเกง แต่ที่ใจกล้าสุด ๆ ก็ตอนที่แม่บ้านเดินออกมาจากหลังร้าน มีพนักงานยืนอยู่หน้าเคาต์เตอร์ แม่บ้านไม่สนใจ หยิบสร้อยข้อมือ 1 เส้น ติดมือไปแบบเนียน ๆ เจ้าของร้านทอง บอกว่า จริง ๆ แล้วพบความผิดปกติครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 กันยายนปี 2564 แม่บ้านทำทองรูปพรรณหล่นออกมาจากเสื้อกันเปื้อน บริเวณห้องครัวหลังร้าน พอเจ้าของร้านถามว่าเอาทองมาจากไหน แม่บ้านคนดังกล่าวอ้างว่า น่าจะหล่นจากตู้โชว์มาใส่ผ้ากันเปื้อน ตรวจสอบย้อนหลัง พบหลักฐานเพิ่มอีกว่า แม่บ้านคนดังกล่าวได้ขโมยทองรูปพรรณภายในร้านไปกว่า 47 ครั้ง น้ำหนักกว่า 700 บาท รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกหลักฐานว่ามีการขโมยตั้งแต่ปี 64 เป็นต้นมา ส่วนในเฟซบุ๊กส่วนตัวของแม่บ้าน มีการโพสต์เอาเงินไปซื้อที่ดิน ซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ ลูกสาวใส่สร้อยคอเส้นใหญ่ ถือว่าผิดปกติ เจ้าของร้านทอง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาถือว่าให้โอกาสแม่บ้านคนดังกล่าวหลายครั้ง แต่สุดท้ายแม่บ้านคนดังกล่าวก็ไม่เอาทองมาคืนให้ครบ คืนเฉพาะบางส่วน สุดท้ายต้องแจ้งความดำเนินคดี แต่แม่บ้านตั้งทนายสู้ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ฟ้องกลับเจ้าของร้านทองว่าทำให้เสียหาย กระทั่งวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกแม่บ้าน 235 ปี (ต่างกรรมต่างวาระ) โดยไม่รอลงอาญา แม่บ้านนำทองคำบางส่วนมาคืน แต่ยังเหลือตัวเลขที่ต้องจ่ายพร้อมดอกเบี้ยอีก 18.5 ล้านบาท ซึ่งแม่บ้านยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ