ชาวบ้านกู้เงินแสนบาท หนี้พุ่งหลักล้านบาท

วันที่ 7 พ.ย. 2567 เวลา 07:15 น.

สนามข่าว 7 สี - ชาวบ้านที่ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด กินไม่ได้นอนไม่หลับ หลังไปกู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง วงเงินไม่กี่แสนบาท ผ่านไป 1 ปี ยอดหนี้พุ่งรายละ 1-3 ล้านบาท ธนาคารปัดรับผิดชอบ หลังพบสาเหตุมาจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่ อ้างเป็นความผิดส่วนบุคคล ให้ไปไล่บี้เอาเอง กลุ่มชาวบ้าน นำโดย นายสุเชิด ชัยชาญ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 หอบเอกสารการกู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง ไปร้องทุกข์ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด หลังพบความผิดปกติ หลังไปกู้เงินจากธนาคาร วงเงินไม่กี่แสนบาท ผ่านไป 1 ปี ยอดหนี้พุ่งรายละ 1-3 ล้านบาท และยังมีชาวบ้านอีกหลายคนในพื้นที่ เจอแบบนี้เหมือนกัน นายพัลลภ บอกว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 ไปกู้เงินจากธนาคารดังกล่าว จำนวน 550,000 บาท โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิง ดำเนินการเรื่องเอกสารให้เซ็นชื่อ จนปี 2565 ทางธนาคารส่งเอกสารมาแจ้งยอดหนี้ จำนวน 1 ล้านบาท สร้างความตกใจให้อย่างมาก ว่าเป็นไปได้อย่างไร อีกคนคือ นายทองมี ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารคนเดียวกัน ดำเนินการเรื่องเอกสารกู้เงิน โดยตนเองขอกู้เงิน 750,000 บาท เพื่อทำโคกหนองนา และซื้อวัวมาเลี้ยง แต่กลับได้รับใบแจ้งยอดหนี้ จำนวน 3 ล้านบาท ทำตนหมดอาลัยตายอยาก จู่ ๆ ต้องมาเป็นหนี้หลักล้านบาท ส่วน นางบัวไข นำโฉนดที่ดินไปจำนองธนาคาร 200,000 บาท เพื่อต่อเติมบ้าน แต่กลับต้องเป็นหนี้ จำนวน 1.1 ล้านบาท เบื้องต้นธนาคารตรวจสอบ พบสาเหตุเกิดจากทุจริตของเจ้าหน้าที่ เป็นความผิดส่วนบุคคล ทางธนาคารไม่สามารถรับผิดชอบได้ ต้องไปไล่บี้กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ด้าน พ.ต.ท.บุณถิ่น วันภักดี อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด เผยว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ได้ย้ายไปที่ธนาคารสาขาอื่น และมีชาวบ้านในตำบลพรมสวรรค์ อำเภอโพนทอง ได้รับผลกระทบลักษณะคล้ายกันกว่า 20 คน เคยรวมตัวเรียกร้องขอเยียวยาจากธนาคาร เมื่อเดือนกันยายน ปี 2565 หลังจากนี้จะประสานกับธนาคาร ให้มาตอบคำถามชาวบ้านอย่างชัดเจนอีกครั้งว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่หากเรื่องไม่จบ จะดำเนินการตามกฎหมาย ทางตำรวจยังฝากเตือนพี่น้องประชาชน เวลาไปทำธุรกรรมกับทางธนาคาร บางครั้งเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ควรระวังดูเอกสารให้ดี หรือควรจะพาลูกหลานไปด้วย