“นายกฯ แพทองธาร” ยินดี “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
วันที่ 6 พ.ย. 2567 เวลา 18:24 น.
“นายกฯ แพทองธาร” ยินดี “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมทำงานร่วม ส่งเสริมความเป็นพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ (6 พ.ย.67) ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ผลคะแนนแม้จะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ ณ เวลา 18.00 น. คะแนนของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้แทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฯ จากพรรครีพับลิกัน คว้าเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไปแล้วถึง 279 เสียง โดยสหรัฐฯ มีเสียงคะแนนผู้เลือกตั้ง 538 เสียง ใครได้เสียงถึง 270 เสียงก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ ด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดี โดยระบุข้อความลงใน X ว่า ยินดีกับท่านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ สว. เจดี แวนซ์ สำหรับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมทำงานร่วมกับท่าน ส่งเสริมความเป็นพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ส่วนทางด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ถึงแม้ผลการเลือกตั้งจะออกมายังไม่เป็นทางการ แต่ขนาดนี้สามารถที่จะสรุปได้ว่านาย โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง รวมถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความแสดงความ ยินดีกับนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไปแล้ว ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยทำงานร่วมกันกับกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และอย่างที่ตนได้เคยให้สัมภาษณ์ ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รวมถึงไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำของทุกประเทศ ประเทศไทยก็พร้อมที่จะดำเนินความสัมพันธ์และร่วมมือกับทุกประเทศ เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่ประเทศไทยพร้อมจะ เสริมสร้างมีความร่วมมือกับสหรัฐฯ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมาเป็นระยะเวลาอันช้านาน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เป็นความสัมพันธ์ในลักษณะพิเศษ มีความตกลงร่วมกันมาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นใครจะมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือเป็นผู้นำก็เชื่อมั่นว่าการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จะเป็นไปอย่างเข้มข้นและมีความร่วมมือกันอย่างดีจากประวัติความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างช้านาน ส่วนจะส่งผลอย่างไรในมิติทางเศรษฐกิจ และมติเชิงภูมิรัฐศาสตร์ นายมาริษ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาจะมีนโยบายเช่นไรทั้งเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ โดยไทยได้วางเป้าหมายที่จะดำเนินความสัมพันธ์อย่างเข้มแข็งระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ส่วนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทยพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกัน รวมถึงส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนการทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของไทยและผู้ประกอบการของสหรัฐฯ ตนเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์อันดีจะส่งผลกับประชาชนทั้งสองประเทศทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจร่วมกันให้เป็นไปอย่างยั่งยืน