ส่งลูกชายติดยารักษาต่อ อดีตครูโล่งใจ พยาบาลยันดูแลดี ไม่เกิน 2 ปี กลับเป็นปกติ
วันที่ 6 พ.ย. 2567 เวลา 13:52 น.
รพ.ส่งลูกชายติดยารักษาต่อ พยาบาล ยัน ดูแลดี ๆ ไม่เกิน 2 ปี กลับเป็นปกติ อดีตครูโล่งใจ แต่ยังต้องลุ้นผลรักษา 3-4 เดือน จากกรณีนางสารภี อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ชาวบุรีรัมย์ แบ่งพื้นที่ภายในบ้านทำห้องลักษณะเหมือนกรงขังของสถานีตำรวจ ซึ่งในห้องขังนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งกล้องวงจรปิด ห้องน้ำสะอาด เพื่อรอรับการกลับมาของ นายเอ (นามสมมุติ) ลูกชายวัย 42 ปี ที่เจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนางรอง ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากคลั่งยาบ้าอย่างหนัก จนแม่ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว ต่อมานายสารภี มีความวิตกกังวนหลายเรื่อง ทั้งการสร้างห้องจะผิดกฎหมายหรือไม่ และจะสามารถควบคุมลูกได้อย่างไร เพราะลูกชายอาการหนักขู่ฆ่าแม่หลายครั้ง ซึ่งได้มีหลายหน่วยงานเข้ามาให้คำแนะนำและจะหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ ล่าสุด วันนี้ (6 พ.ย.67) น.ส.ศิริวรรณมาศ รัตนภักดี ผอ.ส่วนวิเคราะห์ข่าวและเฝ้าระวัง สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กำพล วงศ์สงวน ผกก. สภ.นางรอง และนายพงศ์กรณ์ ภัทราวัฒนสิน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการกลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลนางรอง ได้เดินทางมาที่บ้านของนางสารภีอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่าได้ส่งตัวนายเอ ไปรักษาบำบัดที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์แล้ว ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลารักษารอบละ 3-4 เดือน เพื่อประเมินอาการ สร้างความพอใจให้กับนางสารภี เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีที่นายพงศ์กรณ์ ได้อธิบายถึงเคสดังกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ยาก เพราะโรงพยาบาลเคยบำบัดและรักษาผู้ป่วยจิตเวชจากสาเหตุยาเสพติดจนหายได้ กรณีนี้ถ้าดูแลดี ๆ ไม่เกิน 2 ปีกลับมาเป็นปกติแน่นอน ขณะที่นางสารภี เล่าว่า ตอนนี้ถือว่าโล่งใจในระดับหนึ่ง แต่อยากรู้ว่าหลังจากรักษาได้ 3-4 เดือน ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งแล้วไม่หายตนเองจะทำอย่างไร จะมีใครมาช่วยแก้ไขปัญหาให้อีกหรือไม่ ส่วนตนพร้อมให้ลูกชายไปรักษาได้ตลอดเวลา ด้าน พ.ต.อ.กำพล กล่าวว่า ตอนนี้กำลังสืบหาที่มาของยาเสพติดที่ลูกชายนางสารภีซื้อมาเสพ เพื่อติดตามจับกุมนักค้ายากลุ่มนี้มาดำเนินคดี ส่วนกรณีทำห้องขังถ้าไม่มีอะไรถือว่าไม่ผิด ถ้าเจ้าของบ้านจะปรับเป็นห้องนอนก็ทำได้ด้วยการเอาผนังมาปิดทับกรงเหล็ก