อัปเดต! “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” พ.ย.67 ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง
วันที่ 5 พ.ย. 2567 เวลา 16:54 น.
กรมบัญชีกลาง อัปเดต “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” พ.ย.67 ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง วันนี้ (5พ.ย.67) นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2567 จะได้รับสิทธิ ดังนี้ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป) - วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ส.ค. - 26 ก.ย. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ต.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง) - วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 67) - วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ) วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 - เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ส.ค. - 26 ก.ย. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท) กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2567 ดังนี้ 1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน 1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,944.45 ล้านบาท 1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 198.48 ล้านบาท 1.3 วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 157.15 ล้านบาท รวมจำนวนเงิน (1) 4,300.08 ล้านบาท 2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ 2.1 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 จำนวน 259.90 ล้านบาท รวมจำนวนเงิน (2) 259.90 ล้านบาท 3. สวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ 3.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 193.73 ล้านบาท 3.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 25.21 ล้านบาท รวมจำนวนเงิน (3) 218.94 ล้านบาท รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) + (3) = 4,778.93 ล้านบาท “ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว