สำนักพุทธฯ ลุยตรวจสอบ พระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น
วันที่ 5 พ.ย. 2567 เวลา 08:44 น.
คืบหน้า สำนักพุทธฯ เข้าตรวจสอบ หลังเพจดังแฉ พระปลัด วัดป่าแห่งหนึ่ง จ.มหาสารคาม ใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ซุกเลี้ยงดูหรู ขอเงินได้เงิน ขอรถได้รถ โอนแล้วแถมเงินสดใจป๋าสุด ๆ 5 พ.ย. 67 จากกรณีเพจ คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี โพสต์ข้อความ พร้อมรุปภาพพระปลัดรูปหนึ่ง ที่มีตำแหน่งเป็นถึงรองเจ้าอาวาส วัดดังแห่งหนึ่ง ในต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยข้อความระบุว่า "พระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ซุกเลี้ยงอยู่หรู ขอเงินได้เงิน ขอรถได้รถ โอนแล้วแถมเงินสดใจป๋าสุดๆ" จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบ เนื่องจากชาวบ้านหลายคนเห็นถึงการกระทำของรองเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว รู้สึกถึงความไม่สบายใจต่อพฤติกรรมที่มีต่อสีกา ซึ่งมีภาพออกตามสื่อโซเชียล เกรงว่าจะทำให้ทางวัดเสียหาย จึงอยากให้พระผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ ช่วยตรวจสอบถึงพฤติกรรมความเหมาะสม นอกจากนี้ หลายคนเห็นถึงความไม่โปร่งใสถึงการเปิดจองวัตถุมงคลต่าง ๆ ว่า ถูกต้องหรือไม่ มีการทุจริตเงินทอนหรือไม่ จึงอยากให้มีการตรวจสอบค้นหาความจริง ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดดังกล่าว โดยพบว่าภายในวัดยังคงมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์กันอย่างต่อเนื่อง โดยได้พบกับพระ ซึ่งเป็นประธานสงฆ์ของวัดดังกล่าว เผยกล่าวว่า เบื้องต้นได้ทราบข่าวที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ทางวัดไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงก็คือ ทางพระรูปนั้นเคยเป็นรองเจ้าอาวาสวัดจริง แต่ได้ลาออกไปแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้ว พระรูปนี้ไม่ได้จำวัดอยู่ที่วัดป่าแห่งนี้ ไปจำวัดอยู่อีกวัดหนึ่ง ส่วนคนที่เอาไปพูดก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ทำให้วัดวาเสียหาย พูดแต่เรื่องที่ไม่ดี ทำไมถึงไม่พูดเรื่องดี ๆ ตอนรู้ข่าวหลวงพ่อก็เฉย ๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้ตกใจ เพราะพระรูปนั้นลาออกไปแล้ว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับทางวัดแม้แต่นิดเดียว แต่คนเอาไปพูดอีกอย่าง เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไปห้ามใครไม่ได้ มันเป็นเรื่องของเขา เราได้ฟังแต่หู ดูแต่ตา ซึ่งพอเวลามีงานพระรูปนี้ก็มาช่วยงานตามปกติ เรื่องที่เป็นข่าวก็เป็นเรื่องส่วนตัว จะมาเหมารวมว่าวัดดังได้กฐิน 91 ล้านแล้วมาทำอย่างนั้นอย่างนี้ หลวงพ่อก็อยากฝากไว้ว่ามันเป็นภัยศาสนา เป็นภัยต่อวัดวาอาราม มันไม่ดี อย่าไปหาพูด ซึ่งเรื่องที่ออกมาก็ต้องไปพิสูจน์ว่ามันจริงหรือเท็จ ก็ต้องว่ากันไป ตัวหลวงพ่อก็ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อเป็นแค่พระลูกวัด อย่าเป็นคนตื่นข่าว ต้องฟังหูไว้หู ยืนยันว่าทางพระรูปนั้นกับทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เขาลาออกจากตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็นไปแล้ว ด้านพระภิกษุ รูปหนึ่ง ที่รู้จักกับพระปลัด รูปดังกล่าว เล่าว่า พระปลัดรูปดังกล่าว เป็นพระที่มีความรู้ความสามารถและทำงานให้ทั้งวัดมาหลายปี ตลอดจนอาสาทำงานตามที่เจ้าคณะผู้ปกครองได้สั่งการอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นพระที่ขยันและมีความรู้ความเข้าใจในพิธีการต่าง ๆ ดี ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องประพฤติตนเสื่อมเสีย ใด ๆ และไม่ทราบว่าขณะนี้ไปไหน เพราะไม่ได้เจอกัน มาสักพักใหญ่แล้ว ล่าสุด นายสมพร จันอุด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ภายหลังจากทราบเรื่อง ก็ได้ลงพื้นที่มายังวัดที่พระที่ปรากฏในข่าวที่พระสังกัดอยู่ ซึ่งอยู่ในภายเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม โดยทางสำนักพุทธฯ ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นแจ้งให้กับทางคณะสงฆ์ต้นสังกัดของพระรูปดังกล่าวได้ทราบ ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้ที่เป็นกระแสข่าวนั้นเป็นใคร เป็นพระวัดไหน จึงมาปฏิบัติตามหน้าที่ แจ้งเจ้าคณะปกครองทราบ และดำเนินการตามพระธรรมวินัยต่อไป ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของกระบวนการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะปกครองในปัจจุบัน และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ให้ได้มีโอกาสได้มาชี้แจงข้อเท็จจริง ท่ามกลางคณะสงฆ์ ทางคณะสงฆ์จะได้รวบรวมข้อมูล พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้ว ทางคณะสงฆ์ก็จะได้แจ้งกลับมาให้ทางสำนักพุทธฯ ทราบต่อไป